ASO คืออะไร พร้อมอัปเดตวิธีทำให้ แอปพลิเคชัน ติดหน้าแรก

App Store Optimization (ASO) คือ กระบวนการในการปรับปรุงการมองเห็นแอพพลิเคชั่นภายใน App Store และเพิ่มอัตราการเข้าถึง ซึ่งเราจะดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นหลัก ๆ จาก App Store สำหรับ iOS และ Google Play สำหรับ Android นอกเหนือจากการจัดอันดับที่สูงในผลการค้นหา App Store แล้ว ASO ยังเน้นที่อัตราการคลิกผ่าน (CTR) ซึ่งหมายความว่าคุณต้องโน้มน้าวให้ผู้คนคลิกเข้าไปในแอพพลิเคชั่นของคุณ

และเมื่อมีผู้ใช้งานพบแอพพลิเคชั่นของคุณแล้วสิ่งถัดมาที่ต้องทำคือเพิ่มประสิทธิภาพของแอป ชื่อแอป ไอคอนแอป ภาพหน้าจอของแอป และคะแนนแอป เมื่อผู้ใช้งานเข้าไปยังหน้าแอพพลิเคชั่นของคุณแล้ว คุณจะต้องแน่ใจว่าพวกเขาดาวน์โหลดหรือทำการซื้อด้วย ส่วนนี้ของ ASO เรียกอีกอย่างว่า Conversion Rate (CRO)

Note : จริง ๆ แล้วคำว่า Application สะกดว่า “แอปพลิเคชัน” ถึงจะถูก แต่ในบทความนี้ตั้งใจเขียนผิดเพื่อประโยชน์ด้าน SEO ของบทความนี้ครับ

Reference: ภาพจาก appradar.com

ASO ศัพท์ดิจิทัลใหม่ที่ควรรู้จัก

ในปัจจุบันที่โลกหมุนเวียนไปตามยุคสมัยที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้นทำให้เทรนด์ของเทคโนโลยีมีการปรับเปลี่ยนไปโดยเฉพาะความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลังสถานการณ์โควิด-19

เช่นกันกับ ศัพท์ดิจิทัล ที่เรามักจะคุ้นชินเกี่ยวกับการทำให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกด้วย SEO (Search Engine Optimization) หรือ SEM (Search Engine Marketing)

แต่ในปัจจุบันที่แอพพลิเคชั่นเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกเราผ่านโทรศัพท์มือถือได้ และการที่จะทำให้ผู้ใช้งานเริ่มใช้แอพพลิเคชั่นของเราก็ต้องทำให้แอพพลิเคชั่นของเราอยู่ใกล้มือผู้ใช้งานมากที่สุด กระบวนการนั้นคือวิธีการทำ ASO

 

ข้อแตกต่างระหว่าง ASO กับ SEO

ASO มักถูกเรียกว่า App Store SEO (Search Engine Optimization) กระบวนการทั้งสองมีความคล้ายคลึงกัน เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพคำหลัก Backlink และการเพิ่มประสิทธิภาพConversion

ความแตกต่างหลักระหว่าง App Store Optimization และ Search Engine Optimization คือปัจจัยการจัดอันดับ นอกจากนี้ ASO ยังใช้สำหรับแอพพลิเคชั่นมือถือในขณะที่ SEO ใช้สำหรับเว็บไซต์

ปัจจัยด้าน SEO สำหรับเว็บเบราว์เซอร์ เช่น Google Search มีสิ่งที่เกี่ยวข้องมากกว่า 200 Checklist และมีท่าทีจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่รายการ Checklist ของการจัดอันดับสำหรับ ASO นั้นสั้นกว่ามาก อย่างไรก็ตาม หลายคนยังไม่แน่ใจว่าปัจจัยใดมีบทบาท แต่ในบทความนี้มีคำตอบ

 

รายการ Checklist ต่อไปนี้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างและความคล้ายคลึงหลักระหว่าง ASO และ SEO

Reference: ภาพจาก appradar.com

ทำไม ASO ถึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้แอปพลิเคชันเติบโต

มีแอพพลิเคชั่นให้ดาวน์โหลดมากกว่า 5 ล้านแอพจาก Apple App Store และ Google Play Store เป็นไปได้มากที่แอปของคุณต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูง

เป้าหมายหลักของการเพิ่มประสิทธิภาพ App Store คือการเพิ่มการดาวน์โหลดและจำนวนผู้ใช้ที่มีความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ขั้นตอนแรกของการเพิ่มการดาวน์โหลดให้สูงคือการทำให้ผู้ใช้ที่เหมาะสมค้นพบแอปของคุณได้ง่าย 

 

ข้อดีของ ASO

ผู้ใช้ส่วนใหญ่ค้นหาแอพพลิเคชั่นโดยการค้นหา Stores และการเพิ่มประสิทธิภาพ ASO นั้นเป็นสิ่งจำเป็น หากคุณต้องการให้แอปของคุณแสดงต่อผู้ใช้ที่เหมาะสม อันที่จริง ASO ก็คือหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับแอปพลิเคชันและเกมบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

ปรับปรุงการมองเห็นและทำให้โดดเด่นใน Stores

ผู้คนไม่สามารถดาวน์โหลดและใช้แอปของคุณได้หากไม่พบ ดังนั้น ไม่ว่าแอปของคุณจะยอดเยี่ยมเพียงใด หากไม่สามารถค้นพบได้ง่าย คุณจะไม่ประสบความสำเร็จในการเข้าถึงแอพพลิเคชั่น

สามารถทำให้กลุ่มเป้าหมายเข้าถึงแอปพลิเคชันได้ง่าย

การค้นหาแอปให้เจอยังไม่เพียงพอ แต่จะต้องค้นหาให้เจอโดยผู้ใช้ที่เหมาะสม ผู้ใช้ที่กำลังมองหาแอปแบบเดียวกับคุณ การเพิ่มประสิทธิภาพ Stores จะนำคุณไปสู่ผู้ใช้ที่เหมาะสม เนื่องจาก Stores จะจับคู่แอปของคุณกับคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องหรือก็คือคือข้อความค้นหาที่ผู้คนจะใช้เพื่อค้นหาแอปของคุณ

เพิ่มการดาวน์โหลดแบบออร์แกนิกอย่างยั่งยืน

กลยุทธ์ ASO ที่ดีจะช่วยเพิ่มการติดตั้งแบบออร์แกนิกของคุณอย่างไม่ต้องสงสัยและรับประกันผลลัพธ์ในระยะยาว นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อมีคนค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับแอปของคุณ พวกเขาจะพบคีย์เวิร์ดของคุณเสมอ ด้วยการตรวจสอบและอัปเดตเป็นประจำ การทำ ASO นี้มีข้อดีค่อนข้างแตกต่างกับการปั๊มไลค์บนเฟซบุ๊กที่จะคอยสร้างความไม่ยั่งยืนให้กับเพจต่าง ๆ ได้อีกด้วย

ลดต้นทุนการจัดหาผู้ใช้และเติบโตอย่างต่อเนื่อง

แทนที่จะใช้จ่ายเงินไปกับโฆษณา คุณสามารถลดต้นทุนการได้มาซึ่งผู้ใช้โดยเน้นที่การเติบโตแบบออร์แกนิกด้วย ASO ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณประหยัดเงิน แต่ยังช่วยให้เติบโตอย่างมั่นคง

เพิ่มรายได้จากแอปพลิเคชันและอัตรา Conversion Rate

มีหลายวิธีในการสร้างรายได้จากแอปพลิเคชันของคุณ ซึ่งรวมถึงโฆษณาในแอป การซื้อในแอป และรูปแบบการสมัครรับข้อมูล ด้วยเหตุนี้ หลาย ๆ คนอาจตัดสินใจแสดงโฆษณาเพื่อเพิ่มจำนวนผู้ใช้และทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น

แต่ถ้าหน้าข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Stores ของคุณไม่เกิด Conversion ค่าโฆษณาของคุณก็สูญเปล่า โปรดจำไว้ว่า การเพิ่มประสิทธิภาพ Stores ยังเกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพ Conversion Rate ที่ทำให้ผู้คนคลิกผ่านและดาวน์โหลด

เข้าถึงผู้ชมทั่วโลกด้วยแอปพลิเคชันของคุณ

การทำให้แอปพลิเคชันของคุณพร้อมใช้งานในภาษาอื่น ๆ ผ่านกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพ Stores ที่เรียกว่าการแปลเป็นภาษาท้องถิ่น จะทำให้ผู้ใช้จากทั่วโลกค้นพบแอปของคุณได้ ASO สามารถช่วยให้คุณนำแอปของคุณไปสู่ระดับโลกได้อย่างไม่มีข้อจำกัดด้านภาษา

 

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง App Store และ Google Play

ทั้ง Apple และ Google ได้ใช้กระบวนการตรวจสอบแอพพลิเคชันเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขามีแอพคุณภาพสูงในร้านค้าของพวกเขา อย่างไรก็ตาม กระบวนการตรวจสอบของ Apple มักจะใช้เวลานานกว่าของ Google คุณควรคำนึงถึงบัฟเฟอร์ 3 วันเสมอเมื่อคุณออกแอปหรืออัปเดตใหม่ เมื่อแอปของคุณได้รับการอนุมัติ แอปจะเผยแพร่ใน App Store และ Google Play ภายใน 24 ชั่วโมง

แม้ว่า Keyword จะมีความจำเป็นสำหรับ ASO ในร้านค้าทั้งสองแห่ง แต่ก็มีการประเมินที่แตกต่างกัน กระบวนการจัดทำดัชนีสำหรับ Google Play ทำงานเหมือนกับของ Google Search ซึ่งหมายความว่า Google จะพิจารณาองค์ประกอบที่เป็นข้อความทั้งหมดเมื่อจัดทำดัชนีคำหลักสำหรับแอปของคุณ

คุณจะต้องใช้คำหลักซ้ำ 3-5 ครั้งในทุกฟิลด์เพื่อจัดอันดับสำหรับ Google Play

ในทางกลับกัน Apple App Store ให้ฟิลด์เฉพาะสำหรับคำหลักของคุณ 

 

Checklist การจัดอันดับ Apple App Store และ Google Play Store

Google Play และ Apple App Store ใช้อัลกอริทึมที่ซับซ้อนเพื่อจัดเรียงผลการค้นหา แม้ว่าจะไม่มีข้อมูลที่แน่นอน แต่ก็สามารถอนุมานปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการจัดอันดับร้านแอปได้

Checklist การจัดอันดับ Apple App Store

• App Name
• App URL
• App Subtitle
• Keyword field
• In-App Purchase
• Rating and Reviews
• Updates
• Downloads and Engagement
• Some Hidden factors

Checklist การจัดอันดับ Google Play Store

• App Title
• Short Description
• Long Description
• In-App Purchase
• Rating and Reviews
• Updates
• Downloads and Engagement
• Some Hidden factors

Reference: ภาพจาก appradar.com

8 Tips ง่าย ๆ สำหรับเริ่มต้นปรับปรุง ASO

มีหลักการพื้นฐาน 8 ข้อเพื่อให้แน่ใจว่าแอปของคุณได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับ Stores การปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณทำการตลาดแอปพลิเคชันของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ใช้ Keyword ที่เกี่ยวข้อง

การค้นคว้าคำหลักที่เหมาะสมสำหรับผู้ชมเป็นสิ่งสำคัญ

ต้องระบุคำหลักที่ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าของคุณกำลังค้นหาและคำหลักที่คู่แข่งอันดับต้น ๆ ของคุณใช้

Reference: ภาพจาก tinuiti.com

การจับคู่คีย์เวิร์ดกับความต้องการของลูกค้าจะช่วยให้พวกเขาค้นหาแอปของคุณบน Stores ได้ง่ายขึ้น

• อย่าใช้คำหลักที่ไม่เกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชัน เพราะอาจจะทำให้อันดับลด
  
• เน้นย้ำคำเดียวเป็นคีย์เวิร์ด อย่าใช้ประโยคยาว
• อย่าใช้คีย์เวิร์ดที่มีคำว่า “แอป (App)” หรือชื่อแบรนด์ของคู่แข่ง

สำหรับความช่วยเหลือในการวิเคราะห์คำหลัก เราขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วย Google Keyword Planner และย้ายไปยังเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพร้านแอป เช่น Mobile Action และ Sensor Tower ในภายหลัง

 

ปรับชื่อและคำอธิบายของคุณให้เหมาะสม

ชื่อเป็นข้อมูลที่สำคัญที่สุดเพียงอย่างเดียวที่คุณสามารถใช้เพื่อเพิ่มยอดดาวน์โหลด

เน้นที่การเขียนชื่อที่มีอักษรไม่เกิน 25 ตัวเพื่อให้แสดงชื่อทั้งหมดได้บนหน้าจอเรียกดูแอป ชื่อควรเป็นที่จดจำเพื่อเพิ่มการดาวน์โหลด การใช้ชื่อบริษัทและคีย์เวิร์ดอันดับต้น ๆ จะทำให้ค้นหาแอปของคุณได้ง่ายขึ้น

Reference: ภาพจาก tinuiti.com

 

เมื่อคุณเลือกชื่อแล้ว ให้ลองค้นหาแอปของคุณ หากมีผลลัพธ์นับพัน แสดงว่าชื่อของคุณไม่สร้างสรรค์เพียงพอ

คำอธิบายควรมีคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องให้ได้มากที่สุด (โดยไม่ใช้คำฟุ่มเฟือย) ในอักษร 250 ตัวแรก หลังจากนี้จะเป็นการคลิก “อ่านเพิ่มเติม” จากผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า

 

รวมไอคอนและภาพหน้าจอที่น่าสนใจ

ภาพที่น่าดึงดูดจะทำให้คุณได้เปรียบใน Stores

เลือกไอคอนแอปที่จดจำได้ง่ายและเป็นที่จดจำสำหรับแบรนด์ของคุณ ควรเลือกใช้สีที่แตกต่างจากคู่แข่งเพื่อขจัดความสับสนจากผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า

Reference: ภาพจาก tinuiti.com

 

คนส่วนใหญ่จะดูภาพหน้าจอของคุณก่อนตัดสินใจดาวน์โหลด ดังนั้นอย่ามองข้ามสิ่งเหล่านี้ เราแนะนำให้ใช้ภาพหน้าจอมากที่สุดเท่าที่ Stores จะอนุญาตให้คุณอัปโหลด

ใช้เทมเพลตที่มีสีสัน เพื่อให้ภาพหน้าจอของคุณดูเป็นมืออาชีพและสวยงามเมื่ออยู่ด้วยกัน ข้อความไม่ควรเป็นจุดสนใจหลัก รวมคุณลักษณะภาพที่แสดงให้เห็นว่าแอปของคุณมีค่ามากกว่าคู่แข่งอย่างไร

ซึ่งกระบวนการนี้อาจจะต้องใช้เทคนิคการทำ UX UI เข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อให้เข้าใจผู้ใช้งานได้มากขึ้น

 

เพิ่มวิดีโอ

การสร้างวิดีโอภายในหน้าของแอปสามารถเพิ่มการดาวน์โหลดได้ถึง 35%

การเพิ่มขึ้นถึง 35% นี้มากกว่าการเพิ่มประสิทธิภาพชื่อของคุณ (15%) และภาพ (30%) การดาวน์โหลดที่เพิ่มขึ้นทุกครั้งยังเพิ่มอันดับของคุณอีกด้วย

เนื่องจากคนส่วนใหญ่ชอบค้นหาและดาวน์โหลดแอปภายในไม่กี่นาที ให้อัปโหลดวิดีโอที่แสดงคุณลักษณะที่มีค่าที่สุดของแอปพลิเคชันเข้าไป นอกเหนือจากการถ่ายทำในรูปแบบหน้าจอแอปพลิเคชันแล้ว การใช้ Motion Graphics เข้ามาเกี่ยวข้องก็เป็นวิธีที่น่าสนใจเช่นกัน

Reference: ภาพจาก tinuiti.com

 

ตรวจสอบคู่แข่งอย่างสม่ำเสมอ

แม้ว่าการทำความเข้าใจว่าคู่แข่งของคุณเป็นใครและกลยุทธ์ทางธุรกิจของพวกเขามีความสำคัญต่อธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างไร แต่การปรับแต่ง ASO ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งด้วย

ก่อนเพิ่มแอปของคุณใน Stores คุณควรระบุหมวดหมู่ที่ดีที่สุดสำหรับแอปของคุณด้วย

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกหมวดหมู่ ได้แก่ :

• จำนวนแอปพลิเคชันในหมวดหมู่นั้น ๆ
• จำนวนแอปพลิเคชันที่อัปเดตอย่างต่อเนื่อง
• หมวดหมู่ใดที่มีการดาวน์โหลดสูงที่สุด

เมื่อคุณเพิ่มแอปพลิเคชันของคุณใน Stores แล้ว คุณจะต้องตรวจสอบแอปพลิเคชันที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในหมวดหมู่ที่คุณเลือกอย่างสม่ำเสมอ ดูว่าอันดับของพวกเขาเปลี่ยนแปลงหรือไม่เมื่อพวกเขาเพิ่มคำหลักหรือเปลี่ยน Meta Description

Reference: ภาพจาก tinuiti.com

 

พยายามจัดอันดับคีย์เวิร์ดใหม่ให้ดีที่สุดก่อนที่คู่แข่งจะมีโอกาส คุณจะต้องติดตามคู่แข่งที่มีจุดประสงค์ คุณสมบัติของแอพ และแม้แต่แอพที่ใช้ Keyword เดียวกันกับที่คุณใช้

ตาม App Tweak ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์คู่แข่ง คุณควรจะจำกัดคู่แข่งอันดับต้น ๆ ของคุณให้แคบลงเหลือห้าคน เพื่อให้คุณสามารถจัดการปรับปรุง ASO ที่สอดคล้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

สร้าง Backlinks

ในการสร้าง Backlinks ที่ดีที่สุด แอปของคุณควรเชื่อมโยงกับเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับแอปของคุณและมีอำนาจตามมาตรฐานอัลกอริทึมปัจจุบันของ Google (SEO)

Backlinks สามารถอยู่ในรูปแบบข้อความหรือตามรูปภาพโดยใช้แท็ก ALT (ข้อความแสดงแทน) กลยุทธ์บางอย่างที่ทำให้เกิดการคลิกรูปภาพได้มากกว่าการแค่เลื่อนผ่านคือการทำ Meme ซึ่งเป็นอีกวิธีที่จะทำให้มัดใจผู้ใช้ได้นานกว่าแค่รูปแอปพลิเคชันเฉย ๆ

แม้ว่าจะมีการโต้เถียงกันเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ Backlinks เกี่ยวกับ ASO แต่ก็สรุปได้ว่าคุณภาพกับปริมาณเป็นวิธีที่ต้องการเพื่อความสำเร็จของ Backlinks

 

เพิ่มปริมาณการใช้งาน (และดาวน์โหลด) ไปที่หน้า Stores ของคุณ

การมีเว็บไซต์ที่ปรับ SEO ให้เหมาะสมเพื่อใช้เป็นโฮสต์ข้อมูลแอปของคุณ จะช่วยให้คุณเพิ่มปริมาณการเข้าชมไปยังหน้าร้านแอปของคุณได้โดยตรง ซึ่งการสร้างเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพและเข้าใจได้ง่ายควรสร้างเว็บไซต์แบบ Web Application เพื่อให้ผู้สนใจได้ดูข้อมูลได้ง่ายขึ้น

การใช้เว็บไซต์นี้สำหรับแอปของคุณสามารถช่วยให้ติดอันดับบน Google ได้ ทำให้ผู้ที่ค้นหาผ่านเว็บไซต์มีตัวเลือกอื่นในการค้นหาและดาวน์โหลดแอปของคุณ

 

Reference: ภาพจาก tinuiti.com

 

คุณยังสามารถใช้โฆษณาแอปเพื่อเพิ่มการเข้าชมแอปของคุณได้ เช่น Apple Search Ads (ASA) หรือ Google Universal App Campaigns (UAC)

Reference: ภาพจาก tinuiti.com

 

การให้คะแนนและรีวิวแอป

คำติชมจากผู้ใช้ของคุณเป็นส่วนสำคัญของการเพิ่มประสิทธิภาพ Stores ทั้ง Apple และ Google คำนึงถึงความคิดเห็นและคำวิจารณ์ที่ผู้ใช้แจ้งเกี่ยวกับแอปของคุณ

ยิ่งคะแนนของคุณดีขึ้น แอปพลิเคชันของคุณก็จะยิ่งมีความเกี่ยวข้องมากขึ้นโดยร้านค้าและอันดับที่สูงขึ้น

ทำอย่างไรให้แอปพลิเคชันถูกรีวิว

ผู้ใช้มักจะเขียนรีวิวหากพวกเขาชอบแอปนั้นจริง ๆ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถกระตุ้นให้พวกเขาทำภายในแอพได้ หากคุณมีเกมหรือกิจกรรมต่าง ๆ บนแอป

ช่วงเวลาที่ดีในการขอคำวิจารณ์คือหลังจากที่ผู้ใช้เอาชนะด่านได้ แต่ระวังไว้นะถ้าขอรีวิวบนแอปบ่อย ๆ อาจจะทำให้แอปมีปัญหาได้ ตัวอย่างเช่น บน iOS คุณสามารถขอความเห็นได้สามครั้งต่อปี

 

สรุป

ความเชี่ยวชาญการปรับแต่ง ASO และผลลัพธ์จะไม่เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน

การทำ ASO คือ อะไรที่เข้าใจไม่ยากแต่ไม่ใช่งานครั้งเดียวแล้วจบ คุณจะรู้สึกเหมือนเป็นการวิ่งที่ไม่มีวันสิ้นสุดหรือการพรวนดินหิมะเมื่อหิมะยังตกอยู่ ดังนั้น ทุกวันนี้ แนวทางทั่วไปที่สุดในการเพิ่มประสิทธิภาพจึงไม่มีแนวทางเลย ที่เราได้อธิบายทั้งหมดมันคือการลองผิดลองถูก คุณจะต้องทดสอบและตรวจสอบ Keyword ของคุณอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีอันดับที่ดี จึงจะเพิ่มปริมาณการเข้าชมและเพิ่มยอดดาวน์โหลดของคุณได้

อย่างไรก็ตาม หากคุณใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในแต่ละวันของการทำงานกับ ASO Checklist เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแอปพลิเคชัน สักวันคุณจะพอใจกับความคืบหน้าที่ทำได้แน่นอน

 

ผู้ประกอบการท่านใด ต้องการเดินบนเส้นทางธุรกิจออนไลน์ ปรึกษา Exvention ได้เลยครับ

นอกจากนี้เรายัง รับทำเว็บไซต์ อีกด้วยท่านใดสนใจติดต่อเราได้เลยครับ

 

Reference :

ASO คือ อะไรหว่า?

What is ASO? And Why is it Important?

What is App Store Optimization: Ultimate Guide to ASO in 2022

The 7-Step Guide to App Store Optimization (ASO)