Deep Learning

รู้จักกับ Deep Learning กลลวงใหม่ที่ใช้ในแกงค์คอลเซ็นเตอร์

Deep Learning คำนี้เคยรู้จักไหม บางทีรับสายวีดีโอคอลแต่คนที่โทรมาดันเป็นหน้าตำรวจ! แกงค์คอลเซ็นเตอร์โทรก่อกวนเป็นปัญหาใหญ่ในตอนนี้ ซึ่งวิธีการแบบเดิมๆ หลายคนคงรู้ทันแล้ว พวกนี้จึง “อัพเกรด” ด้วยการนำภาพนิ่งตำรวจมาทำปากขยับได้ผ่านแอป Deep Fake App

ซึ่งทำให้หลายคนหลงเชื่อได้มากเลยทีเดียว ซึ่งวิธีเลียนแบบใบหน้าดังกล่าว เป็นการใช้ AI มาทำดีปเลิร์นนิ่ง ซึ่งเป็นการให้ AI เรียนรู้และเกิดความสามารถในการจดจำจากการป้อนข้อมูลตัวอย่าง

จนมันสามารถประมวลผลออกเป็นผลลัพธ์ดังกล่าวนั่นเอง! ในอนาคตหากดีปเลิร์นนิ่ง ทำได้เหมือนในภาพยนต์ละก็ คงจะน่ากลัวไม่เบา เทคโนโลยีในกลุ่มของปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) กลายเป็นเทคโนโลยีที่สามารถพบเห็นและใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในสมาร์ทโฟน ที่ใช้กันตอนนี้อย่างแพร่หลาย

ปัญญาประดิษฐ์สามารถแบ่งเป็นสองประเภท คือ การเรียนรู้ด้วยจักรกล หรือ Machine Learning และที่กำลังเป็นที่สนใจในปัจจุบันอย่างการเรียนรู้เชิงลึกหรือ ดีปเลิร์นนิ่ง

Ref: Neural Network Architectures

 

Deep Learning คืออะไร เข้าใจได้ง่ายๆ

สิ่งที่เราควรต้องทำความเข้าใจกันก่อนคือ ถึงแม้ว่าดีปเลิร์นนิ่ง จะถูกแบ่งแยกออกเป็นสองประเภท แต่ดีปเลิร์นนิ่งก็ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของ Machine Learning เพียงแต่วิธีการเรียนรู้เพื่อหาคำตอบของปัญญาประดิษฐ์นั้นแตกต่างกัน Machine Learning คือการรับข้อมูลจำนวนมากมหาศาล เพื่อจดจำความแตกต่างหรือลักษณะเด่นและทำการแบ่งข้อมูลออกเป็นกลุ่ม

เช่น หากมีครีบก็แยกไปกลุ่มปลา ไม่มีครีบแต่มีปีกก็แยกไปกลุ่มนก ตามจุดเด่นที่เห็นได้ชัด เป็นต้น ยิ่งเรียนรู้มากก็จะยิ่งแยกแยะจุดเด่นดังกล่าวได้ดีขึ้นดีปเลิร์นนิ่ง คือการจำลองรูปแบบการประมวลผลของสมองมนุษย์ โดยใช้โครงสร้างคล้ายเซลล์ประสาทในการประมวลผล

เมื่อได้รับข้อมูลมาดีปเลิร์นนิ่ง จะทำการแยกข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ที่ได้รับมาทั้งหมด แล้วนำมาประมวลผลหาจุดเด่นและจุดแตกต่างของข้อมูลให้ลึกขึ้น กับการกรองข้อมูลเป็นชั้นๆ แล้วสรุปผลข้อมูลออกมาเป็น Output และตรวจสอบว่าข้อมูลนั้นส่งผลอย่างไร ผิด หรือถูก

การใช้งาน Deep Learning ที่เห็นได้จริง

ปัจจุบันมีการนำดีปเลิร์นนิ่ง ไปใช้ในงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลที่มีปริมาณมาก เช่น รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous Vehicles) ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ ในปัจจุบันระบบควบคุมความเร็ว ระบบเบรกอัตโนมัติ หรือระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ต่างใช้ดีปเลิร์นนิ่ง ในการแยกวัตถุที่อยู่รอบรถยนต์

 

Deep Learning Car

Ref: Imitation as a Technique for Self-Driving Cars – AI Trends

ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์คันอื่น รถจักรยานยนต์ จักรยาน หรือคนที่เดินตามถนน ผ่านการดึงข้อมูลจากเซนเซอร์และกล้องจำนวนมากภายในรถยนต์ นำมาคำนวนเพื่อหาทิศทางและความเร็วที่เหมาะสม การอ่านข้อมูลจากป้ายเตือนต่างๆ หรือสั่งให้รถยนต์ลดความเร็วหรือหยุดได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ดีปเลิร์นนิ่ง ยังมีการใช้งานที่แตกต่างกันไป ตัวอย่างดังนี้

การวินิจฉัยโรค

ดีปเลิร์นนิ่งถูกใช้มาเป็นเครื่องมือในการวินิจฉัยโรค เช่น การวินิจฉัยจากข้อมูลส่วนตัวของผู้ป่วยอย่างน้ำหนัก ส่วนสูง ค่าน้ำตาลในเลือดหรือค่าไขมันในเลือด เพื่อหาสาเหตุของอาการเจ็บป่วย การวินิจฉัยจากภาพถ่ายทางการแพทย์เช่นภาพเอ็กซ์เรย์ ภาพอัลตราซาวนด์ หรือภาพ MRI โดยดีปเลิร์นนิ่ง จะประมวลผลภาพถ่ายของผู้ป่วย

เปรียบเทียบกับฐานข้อมูลเพื่อค้นหาความผิดปกติอย่างเนื้องอกหรือมะเร็ง และระบุตำแหน่งของความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับอวัยวะให้แพทย์ได้รับรู้ ซึ่งช่วยลดเวลาในการวินิจฉัยโรคของแพทย์เป็นผลดีอย่างมาก

การแปลภาษา

ระบบแปลภาษา Google Translate ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการใช้ดีปเลิร์นนิ่ง

  1. การวิเคราะห์ข้อมูลที่ผู้ใช้งาน ป้อนข้อมูลเข้าไป ในรูปของตัวอักษร รูปภาพและเสียง เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลที่ถูกป้อนกับฐานข้อมูลคำในหลากหลายภาษาที่มีอยู่
  2. ขั้นตอนการแปลโดยใช้ดีปเลิร์นนิ่ง เพื่อหาความหมายที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคำที่ต้องการ

การสร้างประโยคหรือโต้ตอบกับมนุษย์

วิธีดีปเลิร์นนิ่งสามารถนำมาใช้ในการสร้างการโต้ตอบ เช่นการโต้ตอบกับข้อมูลผู้ใช้ส่งเข้าไปยังบริการโต้ตอบอัตโนมัติ เช่น Siri Alexa และ Google Assistant หรือแม้แต่การสร้างงานที่ต้องการทักษะในการเขียนสูง นวนิยายหรือบทความวิชาการ โดยดีปเลิร์นนิ่ง

จะหาความเชื่อมโยงระหว่างคำหรือประโยคที่มีอยู่ในฐานข้อมูล นำคำที่เกี่ยวข้องเหล่านี้มาสร้างเป็นประโยคหรือย่อหน้าที่มีความหมายสมบูรณ์ ซึ่งมีผู้นำดีปเลิร์นนิ่ง มาใช้ในการเขียนภาคต่อของนวนิยายชื่อดังอย่าง Harry Potter

เกม

ในปี 2016 ได้มีการจัดการแข่งขันหมากล้อมระหว่างลีเซดอล นักหมากล้อมแชมป์โลกชาวเกาหลีใต้ กับคอมพิวเตอร์อย่าง AlphaGo ที่ใช้ดีปเลิร์นนิ่ง ในการวิเคราะห์เเละดำเนินเกม ด้วยความสามารถของ Deep Learning ที่พลิกแพลงการวางหมาก ทำให้ AlphaGo สามารถเอาชนะมนุษย์ได้ถึง 4-1 เกม

ถึงแม้ว่าดีปเลิร์นนิ่ง จะเป็น “กล่องดำ” ที่สามารถอธิบายหลักการทำงานชัดเจนได้ยาก แต่ด้วยพลังของเทคโนโลยีทำให้ดีปเลิร์นนิ่ง อยู่ใกล้ตัวกับชีวิตประจำวันได้มากกว่าที่คุณคิด

Deep Learning มีประโยชน์อย่างไร

เทคโนโลยี learning ทำให้ซอฟต์แวร์ด้านการจดจำภาพและเสียงของเครื่องจักรมรการพัฒนาขึ้นมากจนสามารถนำไปทำเป็นแอพพลิเคชั่นอุปกรณ์หรือบริการออนไลน์ที่สามารถเลียนแบบความเป็นมนุษย์สมองคิดอะไรได้จดจำอะไรได้แยกแยะอะไรได้ดีปเลิร์นนิ่ง ก็จะทำได้ไม่แตกต่างจากสมองมนุษย์สิ่งที่จะได้จากเทคโนโลยีดีปเลิร์นนิ่ง ได้แก่

  1. การแยกคน เป็นการแยกแยะใบหน้าของคน เช่น การติดแท็กใน Google และ Facebook
  2. การแยกวัตถุที่ไม่ใช่คน เป็นการแยกแยะสิ่งมีชีวิตเช่นแยกนกออกจากปลาจากสุนัขการแยกแยะสิ่งไม่มีชีวิตเช่นแยกผ้าห่มออกจากเตียง
  3. แยกเสียง เป็นการแยกเสียงสำเนียงภาษาพูดให้เป็นภาษาเขียนและการแปลภาษา
  4. แยกการแต่งกาย เป็นการแยกได้ว่าใครแต่งตัวในสไตล์เดียวกันกับเราบ้างแล้วเสนอข้อมูลว่ามีเสื้อผ้าแนวนั้นอยู่ที่ไหนบ้าง

สรุป

ดีปเลิร์นนิ่ง เป็นแนวทางใหม่ของวงการ AI , โดยดีปเลิร์นนิ่ง มีโครงสร้างที่ประกอบด้วย input layer , hidden layer และ output layer โดยคำว่า deep นั้นหมายถึงการที่มี hidden layer มากกว่า 2 layer อีกทั้งยังมี neural networks หลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีโครงสร้างที่ถูกออกเเบบมาเพื่อทำงานที่เเตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น CNN จะทำงานได้ดีกับรูปภาพ

ส่วน RNN จะทำงานได้ดีข้อมูลประเภทลำดับเวลา(time series) และ การพิสูจน์อักษร (text analysis) ดีปเลิร์นนิ่ง ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในหลากหลายวงการ ตั้งเเต่การเงิน(finance) ไปถึงการตลาด(marketing) ห่วงโซ่อุปทาน(supply chain) บริษัทยักษ์ใหญ่จะเป็นบริษัทแนวหน้าที่่สามารถใช้ดีปเลิร์นนิ่ง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะว่าพวกเขามีข้อมูลมากพอที่จะทำใช้ในการ train model นั่นเอง

ผู้ประกอบการท่านใด ต้องการเดินบนเส้นทางธุรกิจออนไลน์ ปรึกษา Exvention ได้เลยครับ นอกจากนี้เรายัง รับทำเว็บไซต์ อีกด้วยท่านใดสนใจติดต่อเราได้เลยครับ

Reference :
สร้าง AI ให้รู้ลึก รู้จริง! ทำความรู้จักว่า คืออะไร
เทคโนโลยีการเรียนรู้เหมือนมนุษย์
ดีปเลิร์นนิ่ง คืออะไร ?