ในการออกแบบ UX Design ก็มีข้อที่ควรทำและไม่ควรทำเพื่อให้ผลงานออกมาดี ข้อที่เราควรทำนั้นก็อาจจะผ่านตามามากแล้ว แต่ข้อที่ไม่ควรทำนั้นสิยังไม่ค่อยได้รู้ มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่เราควรหลีกเลี่ยงในการออกแบบ UX ของเรา
User Experience Design (UX) คืออะไร
User experience หรือ UX คือ ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน ต่อการใช้งานของผู้ใช้งาน (Usability) และการเข้าถึง (Accessibility)โดยทั่วไปมักจะใช้ในความหมายของการใช้งานของระบบงาน ที่มองถึงประสบการณ์การสร้างปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งาน (User) ต่อการใช้งานระบบงานและต่อ User Interface (UI) ที่ซึ่งจะหมายความถึงความง่าย ความยากในการใช้งานของผู้ใช้งาน (Usability) การเข้าถึง (Accessibility) ทั้งที่เป็นรูปแบบของ Web Site, Web Application หรือ Apps เป็นต้น
ทักษะที่จำเป็นเมื่ออยากทำ UX Design
UX Design ควรมีทักษะทั้งด้าน Hard Skill และ Soft Skill โดยที่ทักษะด้าน Hard Skill ที่ต้องมี ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา Customer Journey รวมไปถึง User Flow ร่างภาพต้นแบบ (Wireframe) การสร้างต้นแบบ (Prototype) และทดสอบกับผู้ใช้ (Testing) มีความรู้ความสามารถหลักในการออกแบบต่าง ๆ เช่น รู้องค์ประกอบศิลป์ การออกแบบ UI สำหรับเว็บไซต์ และโทรศัพท์มือถือ มีความเข้าใจการออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ และปัญหาที่แท้จริง
ขณะที่ทักษะ Soft Skill ที่ต้องมี คือ การสื่อสารสามารถประสานงานกับทีมอื่น ๆ ได้ สามารถอธิบายงานที่ออกแบบมาให้ผู้อื่นเข้าใจได้ พร้อมเปิดใจรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และปรับตัวอยู่เสมอ สามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้ดี รอบคอบ มีความละเอียด บริหารเวลาได้เป็นอย่างดี ทำงานเป็นทีมเวิร์คได้ หากเป็นหัวหน้าทีม ควรมีความเป็นผู้นำ มีความยืดหยุ่นในการทำงาน และรับฟังความคิดเห็นลูกทีมได้ และมีการตัดสินใจที่เด็ดขาด
7 ข้อที่ไม่ควรทำ สำหรับ UX Designer
ข้อที่ 1 เชื่อในสิ่งที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์
หมายถึงการเชื่อในการทำรีเสิร์ชที่ไม่มีการพิสูจน์ ถ้าพูดในเชิง UX ก็คือการถามลูกค้าต้องการอะไร (What they want) และเชื่อในคำตอบนั้นทันที การทำ UX Research ที่ดี ควรเป็นการรีเสิร์ชที่ทำให้เรา test Needs, goals, behaviors ของ User ลึกๆได้ การทำ UX Research ที่ดีนั้นไม่ใช่เพียงแค่ถามคำถามอย่างเดียว แต่เราจะต้องลงไปนั่งสังเกตการณ์ให้นานพอที่จะสามารถรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปด้วย การถามคำถามตรงๆอย่างคุณชอบหรือไม่ อาจจะทำให้ User แต่งเรื่องขึ้นมาตอบเราได้การใช้ Method อย่างการสังเกตการณ์เข้ามาช่วยในการสัมภาษณ์ จะทำให้เรามองเห็นพฤติกรรมของ User ว่าเขามีวิธีการแก้ปัญหาอย่างไร อีกทางนึงคือเราสามารถสมมุติเหตุการณ์ในอนาคตมาเพื่อให้ User แนะนำวิธีการแก้ปัญหาที่เขาจะทำ มาให้เราเห็นภาพได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ข้อที่ 2 เชื่อว่าเราใช้เครื่องมือที่ถูกต้อง
คือการเชื่อว่าเครื่องมือหรือวิธีการที่เราใช้ในการทำรีเสิร์ชนั้นถูกต้อง เราอาจจะเจอคนที่คิดว่าการใช้เครื่องมือ methodology อย่าง Survey นั้นคือวิธีการที่ถูกต้อง ในการสำรวจความต้องการของผู้ใช้งาน เราอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับการทำ Survey ในข่าว หรือโทรทัศน์อยู่บ่อย ๆ ทำให้ผู้คนก็ต่างคิดกันไปว่าการทำ Survey นั้นเป็นอะไรที่วัดผลได้ถูกต้องและแม่นยำกว่าการทำ Field visit หรือการทำ User interview เพราะว่าการทำ Survey นั้นวัดผลได้ในจำนวนมาก และขนาดใหญ่กว่า การทำรีเสิร์ชที่ดีนั้นควรประกอบไปด้วยข้อมูลทั้งสองแบบ ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะเลือก Survey ในการยืนยัน Personas ที่คุณสร้างขึ้นมาหลังจากการทำ Field visits หรือคุณอาจจะเลือกใช้ A/B Testing มาเพื่อใช้ในการวัดผล Landing page ที่ถูกสร้างมาจากการทำ Usability testing ว่าแบบไหนคนนิยมเยอะมากกว่ากัน
ข้อที่ 3 Bias
Bias ไบแอส หมายถึงความลำเอียง อคติของเราที่จะส่งผลกระทบถึง User ของเราเวลาเราออกไปทำสัมภาษณ์หรือทำรีเสิร์ช ฉะนั้นเวลาที่เราทำงานควรแยกแยะระหว่างงานกับความคิดเห็นส่วนตัวของเราเอง
ข้อที่ 4 เก็บข้อมูลที่ได้ไว้ที่เราเพียงคนเดียว
การทำ UX Research แล้วเก็บข้อมูลทั้งหมดไม่ให้คนอื่นรู้ หรือเก็บการค้นพบไว้ที่เราเพียงผู้เดียว โดยปกติแล้ว UX Research นั้นมักจะเป็นงานที่จะกระจายไปให้คนหนึ่งคนในทีมเท่านั้น และคนๆนั้นมักจะเป็นคนเดียวที่สามารถตอบคำถามถึงเรื่อง Needs ของ User ของเราได้เพียงคนเดียว แต่ทีม Development ที่ดีนั้น ทุกคนควรรับรู้ถึงข้อมูลนี้ ทุกคนควรเข้าใจ Insight ของลูกค้าและสามารถเล่าได้ว่าเบื้องหลังของ User คนนี้คืออะไร มากกว่าการเก็บข้อมูลไว้ที่คน ๆ เดียวอย่าง UX Researcher
ข้อที่ 5 ความขี้เกียจ
ความขี้เกียจของ UX Designer คือการใช้ข้อมูลรีไซเคิลจากงานรีเสิร์ชเก่า ตัดแปะงานเก่าในงานใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการออกไปทำรีเสิร์ชอีกครั้ง การที่เราขี้เกียจในการหาข้อมูลอาจจะส่งผลกระทบต่องานได้โดยเฉพาะงานที่ต้องการข้อมูลเชิงลึก
ข้อที่ 6 การทำรีเสิร์ชที่คลุมเครื
การทำรีเสิร์ชที่ไม่ชัดเจน คลุมเครือ ในทาง UX Research เราจะกล่าวถึงทีมที่ล้มเหลวในการโฟกัสไปกับหัวข้อที่ใช้ในการทำรีเสิร์ช และพยายามที่จะตอบคำถามทุกข้อภายในการทำรีเสิร์ชเพียงแค่ครั้งเดียว การทำ UX Research เราต้องการเรียนรู้ให้ได้มากจากการทำรีเสิร์ชจำนวนน้อย ดังนั้นเราจะต้องคำนึงถึงคำถามที่เราควรทำรีเสิร์ชให้ดี ถ้าอยากให้คำถามของเราครอบคลุมตอบโจทย์ปัญหา เราควรปรึกษากับทีม Development ของเราว่าอันไหนจะมีประโยชน์มากที่สุด ผลลัพธ์จากการรีเสิร์ชแบบไหนที่ทีมเรากำลังต้องการ และเราจะนำผลลัพธ์นี้ไปใช้ได้อย่างไร
ข้อที่ 7 นำเสนอสิ่งสำคัญของการรีเสิร์ชออกมาไม่ได้
ข้อสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด UX Researcher รักในตัวเลข รักในข้อมูล แต่เวลาที่เรารักข้อมูลของเรามากจนเกินไป เราจะพยายามนำเสนอข้อมูลจำนวนมาก รวมไปถึงข้อมูลที่ไม่จำเป็น จนไม่สามารถนำเสนอสิ่งที่สำคัญและประเด็นของการรีเสิร์ชครั้งนี้ออกมาได้
ข้อที่ควรจำสองข้อด้วยกันในการนำเสนอข้อมูลคือ
1. ไม่มีใครอ่านรายงานขนาดยาว –ผู้คนจะเปิดดูรายงานขนาดยาวของคุณเพียง ตัวเลข การเรียงหัวข้อ ชื่นชมว่าคุณทำงานเก่งทำรายงานมาเล่มหนาน่าชื่นชม พอดูไปสักพักพวกเขาจะเบื่อมันและปิดมันลงในที่สุด
2. รายงานที่มีเนื้อหามากจนเกินไป จะทำให้ขั้นตอนการออกแบบทำได้ช้าลง – เราควรรวบรวมข้อมูลที่สำคัญให้เป็นเนื้อหาสั้นลง มีประเด็น จับใจความได้ ย่อยง่าย หลังจากนั้นหากทีมต้องการจะดูเบื้องหลังของการทำรีเสิร์ช ค่อยให้เอกสารจำนวนมากไปตามอ่านทีหลัง
สรุป
User Experience Design เป็นอาชีพที่คนในปัจจุบันให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งการจะออกแบบ UX ที่ดีก็ต้องผ่านในหลายๆกระบวนการเผื่อให้การใช้งานนั้นออกมาง่ายและสะดวกต่อการใช้ แต่ การออกแบบ Ux นั้นก็มีสิ่งที่ไม่ควรทำอยู่เหมือนกัน เมื่อเราสนใจในอาชีพนี้ก็ควรลองศึกษาข้อมูลว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำในการออกแบบ UX ในปัจจุบัน
ผู้ประกอบการท่านใด ต้องการเดินบนเส้นทางธุรกิจออนไลน์ ปรึกษา Exvention ได้เลยครับ นอกจากนี้เรายัง รับทำเว็บไซต์ อีกด้วยท่านใดสนใจติดต่อเราได้เลยครับ
Reference :
ออกแบบ UX คืออะไร
UX/UI Design คืออะไร ทักษะอะไรที่คนทำงานนี้ควรต้องมี