การลงมือทำงานหรือทำอะไรสักอย่าง ให้ได้ผลตอบรับดีนั้นก็ต้องผ่านการหาข้อมูลเรียนรู้ศึกษาในเรื่องนั้นๆ มามากพอสมควร ในยุคนี้การศึกษาเรื่อง UX UI นั้นกำลังเป็นที่นิยมในยุคปัจจุบัน มาดูกันว่า User Experience และ User Interface คืออะไร แล้วควรจะทำอะไรก่อนกัน
UI (User Interface) คือ อะไร
UI นั้น ย่อมาจากคำว่า “User Interface” เน้นการทำไปที่เรื่องการออกแบบหน้าจอหรือแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น แอพลิเคชั่น เว็บไซต์ เกมส์ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่จับต้องได้เช่น จอทัชสกรีน เป็นต้น ให้มีความสวยงาม เข้าใจง่าย เป็นมิตร น่าใช้ (User-friendly) เข้าใจง่ายๆ ก็คือ การออกแบบหน้าตาให้สวยงาม โดดเด่น สร้าง first impression ที่ดีให้กับผู้ใช้งานไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสี ฟ้อนต์ การจัดวางองค์ประกอบต่างๆ คำนึงถึงภาพลักษณ์และความสวยงามเป็นสำคัญ
UX (User Experience) คืออะไร
UX ย่อมาจากคำว่า “User Experience” การออกแบบด้านนี้ จะเกี่ยวข้องกับการที่สินค้าหรือบริการที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ โดยเน้นไปที่การเก็บข้อมูล เพื่อนำกลับมาพัฒนาตัวสินค้าหรือบริการต่อไป เช่น การทำ Usability Testing หรือการให้ผู้ใช้ได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ (ยกตัวอย่างเช่น Google Analytics)
UX ถือ เป็นส่วนสำคัญของการออกแบบทุกประเภท เพราะเป็นการออกแบบเพื่อให้ผู้ใช้หรือลูกค้าขององค์กรรู้สึกดีและพึงพอใจต่อผลิตภัณฑ์ สินค้า หรือบริการ เป็นสิ่งสำคัญ
องค์ประกอบในการออกแบบ UX/UI
User Experience Design มีกระบวนการหรือแนวคิดในการออกแบบ ได้แก่
- Design Thinking : คือการคิดเชิงออกแบบ เป็นกระบวนการคิดที่ให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจปัญหาของผู้ใช้ เพื่อให้สิ่งที่ออกแบบมานั้นตรงต่อความต้องการของผู้ใช้งานสูงสุด
- Service Design : เป็นการนำ Design Thinking มาออกแบบการบริการ ที่จะเน้นแค่การบริการเท่านั้น โดยจะคำนึงถึงประสบกาณ์ความเชี่ยวชาญของผู้ที่เกี่ยวข้องในงานทั้งหมด เพื่อสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพและมีความต่อเนื่องกันตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ
- Design Sprint : เป็นกระบวนการเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ออกสู่ตลาดแล้วได้อย่างเป็นระบบ จุดเด่นในส่วนนี้คือความรวดเร็ว โดยจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในแต่ละ Sprint เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
- User Centered Design : กระบวนการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานเป็นหลัก โดยผู้ใช้งานจะเข้ามามีส่วนร่วมในการประเมินผลการออกแบบร่วมกัน
User Interface Design มีองค์ประกอบในการออกแบบ ได้แก่
- Information Design : กระบวนการออกแบบที่เน้นนำเสนอข้อมูล เพื่อสร้างความเข้าใจและเกิดการเรียงลำดับข้อมูลได้อย่างครบถ้วนและถูกต้อง
- Interaction Design : กระบวนการออกแบบโดยคำนึงถึงปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้งานกับวัตถุที่เน้นการตอบสนองที่ถูกต้อง และผู้ใช้งานสามารถไปถึงเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว เช่น การกดปุ่มลดเสียง แล้วเสียงเบาลง หรือการใช้คำที่สื่อความหมาย ทำให้ผู้ใช้งานทราบได้ทันทีว่าต้องการจะสื่อสารความหมายอะไร หรือให้ผู้ใช้ทำอะไร เป็นต้น
- Information Architecture : เป็นการจัดเรียงข้อมูลอย่างเป็นระบบ และการจัดกลุ่มข้อมูลให้มีความถูกต้อง เพื่อให้ผู้ใช้งานรู้ลำดับการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว เช่น การทำแผนผังเว็บไซต์ (Sitemap)
- Visual Design : เน้นการนำเสนอภาพเพื่อให้เกิดความสวยงาม ครบทุกองค์ประกอบ เช่น การจัดวางตำแหน่ง,การใช้ตัวอักษร ,การใช้สี ในการนำเสนอให้สวยงาม ให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่าย เช่น การทำอินโฟกราฟิก
- Human Computer Interaction : การออกแบบปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้การออกแบบ UX/UI ที่ดี เพราะการพัฒนานั้นเริ่มต้นตั้งแต่การใช้งานคอมพิวเตอร์ผ่านระบบ command line ที่มีความยุ่งยาก ซับซ้อน จนมาถึง GUI ที่มีสีสัน หน้าตา และการใช้งาน ที่สวยงามและง่ายมากยิ่งขึ้น โดยในปัจจุบันยังคงมีการพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง
4 ขั้นตอนของการออกแบบ UX/UI อะไรมาก่อนหรือหลัง
1 Concept is important
คอนเซปต์เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เราควรประชุมทีมหรือ ระดมความคิดของคนภายในทีมตั้งแต่ผู้บริหาร มาร์เก็ตติ้ง นักพัฒนา นักออกแบบ โดยเริ่มจากการตั้งคำถามว่า จะทำอะไร ทำไปทำไม ทำเพื่อใคร ทำยังไง ส่วนนี้จะมีทาง UX Designer ที่จะเข้ามาช่วยนำทีมและวางแผน ไม่ว่าจะเป็นการทำ Emphaty Map และ Define กัน
2.Functional
ถ้าโปรดักส์เป็นแอปพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ ขั้นตอนนี้ คือ การคิดฟีเจอร์ต่าง ๆ ภายใน ซึ่งขั้นตอนนี้จะต้องใช้เวลาในการคิดและตัดสินใจว่า ฟังก์ชันฟีเจอร์ต่าง ๆ อันไหนทำเงินได้ อันไหนเหมาะกับธุรกิจเรา อันนี้คู่แข่งทำแล้ว ดังนั้น วิธีแก้ปัญหาของขั้นตอนนี้คือ การทำ Test ฟีเจอร์โดยการ Checklist feature ที่เราอยากจะทำ โดยแบ่ง ดังนี้
- ฟีเจอร์ที่สำคัญสำหรับผู้ใช้
- ฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้พึงพอใจ
วิธีนี้จะช่วยให้รู้ว่าเราควรจะทำอะไรก่อนหรือหลัง ซึ่งจะช่วยให้สามรถเรียงลำดับความสำคัญได้ง่ายและสะดวกขึ้น
3.Usability
ขั้นตอนนี้จะเป็นหน้าที่ของทาง UX Designer ที่จะต้องทำ Wireframe และ Interaction Design เพื่อให้เกิดความใกล้เคียงกับแอปพลิเคชั่นตัวจริงให้ได้มากที่สุด ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเข้าเมนูส่วนนี้ คลิกที่ปุ่มนี้ หรือแม้กระทั่งการปัดหน้าจอของแอปพลิเคชั่น เป็นต้น
ซึ่งจุดประสงค์ของการทำ Usability นี้คือ เพื่อให้มองภาพรวมได้ง่ายและเข้าใจกันภายในทีม และที่สำคัญ คือ เป็นการ Test ระบบการใช้งานและสังเกตความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมายจริงในขณะทดลองใช้งานด้วยเพื่อให้ได้รู้ถึงความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มเป้าหมายเรา
ข้อดีของการทำ Usability ก่อนนำไปพัฒนาจริง คือ เมื่อมีจุดไหนที่ยังไม่ถูกใจผู้ใช้ หรือผู้ใช้มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ได้ในทันที และสามารถนำไปปรับแก้ใหม่ได้ตลอด
4.Visual Design
ขั้นตอนนี้จะเป็นหน้าที่ของ User Interface Designer, Graphic Designer, Copywriter ต่างๆ หลังจากผ่าน 3 ขั้นตอนด้านต้น ก็ คือ ขั้นตอนของการนำเอา Wireframe และ Interaction Design จากทีม UX มาออกแบบหน้าตาให้สวยงาม เหมาะสม สบายตา ไม่เยอะหรือน้อยจนเกินไปและใช้งานง่าย
สรุป
ในการทำงานของ UX/UI นั้นแตกต่างกันแต่ก็ต้องทำร่วมกัน User Experience เป็นการให้ความรู้ข้อมูลต่าง ส่วน User Interface นั้นทำงานเรื่องอารมณ์ความรู้สึก เมื่อเรารู้และเข้าใจการทำงานของ User Experience และ User Interface แล้วก็สามารถลงมือทำหรือหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความรู้หรือพัฒนาตัวเองได้
ผู้ประกอบการท่านใด ต้องการเดินบนเส้นทางธุรกิจออนไลน์ ปรึกษา Exvention ได้เลยครับ นอกจากนี้เรายัง รับทำเว็บไซต์ อีกด้วยท่านใดสนใจติดต่อเราได้เลยครับ
Reference :
UX&UI แตกต่างกันอย่างไร มาเริ่มต้นทำความเข้าใจง่าย ๆ ไปพร้อมกัน
UX/UI Design คืออะไร
เริ่มต้นออกแบบ UX/UI ง่ายๆ เพียงเข้าใจ 4 ขั้นตอนนี้