เรามักจะเคยเห็นข่าวการถูกโกงในโลกออนไลน์เกิดขึ้นเยอะมากๆ บางคนโดนโกงหลายสิบล้าน บางคนโดนโกงจนชีวิตไม่เหลืออะไรแล้วจะคิดฆ่าตัวตาย เราจะรู้ได้อย่างไรว่าใครเป็น Scammer แล้วจะทำยังไงให้เราไม่ถูกโกง มารู้จักกับ สแกมเมอร์ และวิธีหนีกลลวงที่ สแกมเมอร์ ใช้หลอก
รู้จักกับ Scammer
Scammer ก็คือมิจฉาชีพ ที่ใช้เทคนิคทางจิตวิทยาผ่านเครื่องมือทางเทคโนโลยีต่างๆ เช่นโทรศัพท์มือถือ โทรไปหลอกลวงให้เหยื่อหลงเชื่อ และยินยอมที่จะให้สิ่งที่มิจฉาชีพต้องการ หรือจะเป็นการปลอมโปรไฟล์เฟสบุ๊คทักเข้าไปหลอกให้หลงเชื่อก็มีอยู่เยอะเช่นกัน
วิธีการโกงของสแกมเมอร์
ส่วนมากมิจฉาชีพนั้นจะมีวิธีการหลอกอยู่2แบบ
1. ขโมยข้อมูลส่วนตัว เช่น ประวัติ รูปภาพของคนอื่นมาดัดแปลงเป็นของตนเอง
2. มิจฉาชีพอาจปลอมข้อมูลในโปรไฟล์ขึ้นมา โดยอาจจะสร้างให้สมจริง น่าดึงดูด โดยเป้าหมายแรกของพวกมิจฉาชีพคือพยายามสร้างความรู้จักกับเหยื่อให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้ให้ตัวเองนั้นมีทางเลือกให้มากที่สุด จากนั้นจะไล่ตรวจสอบจากรายชื่อของเหยื่อ และสำรวจความเป็นไปได้จากโปรไฟล์ว่าใครน่าจะหลอกได้ง่ายที่สุด เมื่อได้เหยื่อที่ต้องการแล้ว ก็จะเริ่มปฏิบัติการในขั้นถัดไป คือการตีสนิทหรือการจีบ หากสามารถจีบจนได้รับความไว้วางใจจากเหยื่อมากพอแล้ว ก็จะเริ่มสร้างสัญญากับเหยื่อ โดยจะบอกว่าจะมาร่วมสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาว และจะย้ายมาอยู่ด้วยกันสักวัน หลังจากที่ให้สัญญากับเหยื่อ จนเหยื่อคิดว่ายังไงก็จะได้อยู่ด้วยกันแน่ๆ มิจฉาชีพก็เริ่มหลอกเอาเงินหรือเอาสิ่งที่มีค่าจากเหยื่อมาทีละนิด อาจขอให้เหยื่อนั้นโอนเงิน เป็นค่าเดินทางไปหา หรือใช้เป็นการค่าช่วยเหลือ
5 วิธีหนี Scammer
1. กลลวงฟิชชิ่ง
วิธีนี้มิจฉาชีพจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ข้อมูลของเหยื่อ หลอกให้ติดตั้งแอปเพิ่มเติม หรือนำเหยื่อไปยังเว็บไซต์ปลอมของธนาคารหรือเว็บไซต์คริปโต เพื่อให้ใส่ข้อมูลลงไป มิจฉาชีพจะทำการส่งลิงก์ผ่าน อีเมล โพสต์ ข้อความ หรือพูดกระตุ้นให้เกิดความโลภทางโทรศัพท์ เช่น บอกว่าได้รางวัลเป็นรถหรู แต่ต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อที่จะส่งรถไปให้ แต่ก็ไม่ได้ส่งมาจริงๆ
วิธีหลีกหนี จะต้องตั้งสติ อย่าโลภอยากได้ของฟรี ห้ามกดลิงก์โดยไม่มั่นใจ
2. กลลวงความรัก
คนโสด คนเหงา ต้องระวังตัวให้ดี อาจจะได้รับข้อความส่งตรงและคำขอเป็นเพื่อนจากคนแปลกหน้าในโซเชียลมีเดียหรือแอปหาคู่ มิจฉาชีพจะไม่ได้ส่งลิงก์ หรือให้เหยื่อดาวน์โหลดอะไร แต่จะเข้ามาตีสนิท มาคุย ให้ความหวัง มักจะเป็นคนต่างประเทศ บอกว่าจะมาหา แต่มีเงินไม่พอ หรือบอกว่าต้องใช้เงินด่วน เพื่อขอให้เหยื่อโอนเงินให้ หากโอนไปให้ก็จะหายไปทันที
วิธีหลีกหนี หากเหงาอยากมีคนคุยด้วยก็ลองคุยดู บางคนอาจจะไม่ใช่มิจฉาชีพ แต่ระหว่างที่คุยจะต้องตั้งสติ ไม่โอนให้ตามคำโกหก หากไม่มั่นใจก็กดบล็อคดีที่สุด
3. กลลวงเสนองาน
มิจฉาชีพจะอ้างชื่อบริษัทชื่อดังที่เห็นได้บ่อยๆ เช่น ช็อปปี้ ลาซาด้า เปิดรับสมัครงาน ได้เงินวันละ3พัน ทำงานเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง งานง่ายๆ หากอยากสมัครเพียงแค่กรอกข้อมูลส่วนตัวลงในแบบฟอร์ม กรอกเลขบัญชีธนาคาร เบอร์โทรศัพท์ ถ้าเรากรอกไปแล้วบัญชีธนาคารอาจไปเป็นช่องทางในการรับเงินของมิจฉาชีพ ทั้งยังอาจเดือดร้อนถึงขั้นทำให้เราติดคุกได้ด้วย
วิธีหลีกหนี ตั้งสติ หากอยากสมัครงานกับบริษัทดังให้ติดต่อไปกับเว็บไซต์ของบริษัท หรือไปที่บริษัทเลยดีกว่า ไม่มีงานง่ยๆทางอินเตอร์เน็ตทำไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เงิน อาจจะมีบางคนที่ทำได้แต่สุดท้ายเขาก็ให้เราโอนค่าธรรมเนียมที่มูลค่ามากกว่า เราดูดข้อมูลเราออกไปอีก ทางที่ดี อย่ากรอกข้อมูลสำคัญลงเว็บไซต์ที่ไม่มีความน่าเชื่อ และกรอกข้อมูลสำคัญโดยเฉพาะ เบอร์โทรศัพท์ เลขบัญชีธนาคาร หรือเลขบัตรประชาชน
4. การหลอกให้ลงทุน
มิจฉาชีพมักจะโฆษณาหรือทำคลิปผ่านเฟสบุ๊คว่าตัวเองรวย สร้างภาพสุดหรู ขับรถราคาหลายล้าน มีบ้านหลังใหญ่ สร้างเรื่องราวให้ดูน่าเชื่อถือ จ้างหน้าม้ามาคอมเม้นท์คลิป ทำแล้วได้เงินจริง พร้อมปลุกใจให้คนเข้ามาลงทุน เพียงลงทุนไม่กี่บาทกำไร10เท่า
วิธีหลีกหนี ไม่ควรเชื่อถือการลงทุนในโซเชียล ให้เราตั้งสติและอย่าโลภอยากได้เงินก้อนโตที่เห็นทางโซเชียล มันคือการสร้างภาพทั้งหมด
5. การหลอกให้ทำบุญ
มิจฉาชีพมักจะหาเหตุการณ์ขึ้นมาโพสลงโซเชียล ให้น่าสงสาร ตัวอย่างเช่น ขอความเมตตาอยากให้ช่วยเหลือสุนัขจรจัดที่ไม่มีค่ารักษาพยาบาล หรืออาจจะมาในรูปแบบเหตุการณ์สำคัญ ขอรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือเกิดการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นที่ออสเตเรีย
วิธีหลีกหนี หากอยากช่วยเหลือจริงๆก็สามารถทำได้ แต่ควรตรวจสอบก่อนว่าหน่วยงานที่บริจาคไปนั้นมีหน่วยงานนี้จริงหรือไม่ มีหลักฐานว่านำเงินที่บริจาคไปนั้นไปช่วยเหลือจริงๆ
สรุป
สแกมเมอร์ หรือมิจฉาชีพนั้นมีหลากหลายรูปแบบมาก เช่น ปลอมเฟสบุ๊คมาคุยเพื่อหลอกให้โอนเงิน เสนองานที่มีรายได้สูงให้ทำแค่3ชั่วโมงต่อวัน บอกให้ลงทุนไม่กี่บาทแต่จะได้กำไรกลับมา 10 เท่า แม้กระทั่งการทำบุญก็ยังมาเล่นกับความน่าสงสารให้เราเห็นใจ วิธีหลีกหนีก็คือการตั้งสติ คิดไตร่ตรอง ตรวจสอบให้ดีก่อน ไม่ควรโอนเงินเพราะอยากได้เงินที่มากกว่าเพราะมันไม่มีอยู่จริง
ผู้ประกอบการท่านใด ต้องการเดินบนเส้นทางธุรกิจออนไลน์ ปรึกษา Exvention ได้เลยครับ นอกจากนี้เรายัง รับทำเว็บไซต์ อีกด้วยท่านใดสนใจติดต่อเราได้เลยครับ
Reference :
5 วิธีหนี Scam โจรไซเบอร์จ้องป่วนโซเชียล
ทำความรู้จัก “Romance Scam” แก๊งหลอกรักออนไลน์ พร้อม 5 วิธีจับเท็จ
จิตวิทยาของการตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ (Victim of scams)
เปิดงานวิจัย ‘Romance Scam’ นักต้มตุ๋นเล่นบท ‘คนรักในอุดมคติ-คนดี-น่าเห็นใจ’ จนเหยื่อตกหลุมพราง