iPhone

ทำไม Dynamic Island ใน iPhone 14 Pro ถึงเป็นจุดเด่นที่โดนใจที่สุด

ส่วนใหญ่ทางบริษัท Apple จะมีการอัพเกรดฮาร์ดแวร์กล้อง ชิป แบตเตอรี่ หน้าจอสว่างขึ้น ชัดขึ้น และซอฟต์แวร์บ้างเล็กน้อย ตัวเครื่องก็จะเพิ่มสีบ้าง ปรับขนาดหน้าจอ เปลี่ยนชื่อเรียก หรืออาจจะมีเปลี่ยนโฉม แต่ครั้งนี้มีการทำฟีเจอร์ที่เรียกว่า Dynamic Island ใน iPhone 14 Pro นำจุดด้อยนั้นมาพัฒนาเป็นจุดเด่นไปดูกันเลยว่า ทาง Appleจะนำจุดด้อยส่วนไหนมาพัฒนาเป็นจุดเด่น

 

 

ทำความรู้จักกับ Dynamic Island บน iPhone 14 Pro

Dynamic Island เป็นการรวมเข้าด้วยกันระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ มีการทำงานแบบเรียลไทม์เพื่อแสดงแจ้งเตือนและกิจกรรม มีกล้อง TrueDepth ที่ออกแบบขึ้นมาใหม่เอี่ยม เพื่อใช้พื้นที่จอภาพน้อยลง

 

ในด้านของฮาร์ดแวร์ 

มีพื้นที่บนหน้าจอเจาะออกเป็น 2 ช่อง
1.ช่องรับเซ็นเซอร์ Face ID
2.กล้องด้านหน้า ทั้งยังใช้แผงหน้าจอ OLED ทำให้พื้นที่ Dynamic Island ดูเหมือนยาแคปซูลช่องเดียวที่มีขนาดยาว

ในด้านของซอฟต์แวร์ 

มีความสามารถขยายออกเป็นรูปทรงอื่น ได้อย่างไม่สดุด แสดงข้อมูลสำหรับกิจกรรมสำคัญชัดเจน รวดเร็ว ตัวอย่างเช่น การยืนยันตัวตนด้วย Face ID 

Dynamic Island มีสถานะการทำงานอยู่ตลอดเวลาและไม่รบกวนคอนเทนต์บนหน้าจอ สามารถช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงส่วนควบคุมได้ง่ายมากขึ้นไปอีก เพียงแค่แตะค้างไว้ มีการทำงานอย่างต่อเนื่อง แอปแผนที่ แอปนาฬิกา แอปเพลง จะปรากฏให้เห็นตลอด ทั้งยังสามารถโต้ตอบได้ทันที

 

การทำงานของ Dynamic Island บน iPhone 14 Pro

ถ้าพูดถึงการทำงานของ Dynamic Island นั้น Dynamic Island เป็นพื้นที่ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้ทันที มีการแสดง UI รวมทั้งภาพเคลื่อนไหว สามารถยืดขยายได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละแอป ตัวอย่างเช่น หากมีการใช้แอปจับเวลา iPhone ก็จะแสดงความคืบหน้าแบบเรียลไทม์ที่ด้านบนของหน้าจอ

หากกดค้างไว้ที่ Dynamic Island ถ้าอยากจะขยายวิดเจ็ตของแอป เพื่อแสดงการจับเวลา ผู้ใช้สามารถกดหยุดชั่วคราวหรือหยุดจับเวลาได้โดยตรงจาก Dynamic Island อย่างแอป Music และ FaceTime การทำงานของระบบบางอย่าง ตัวอย่างเช่น เปิดใช้งานโหมดโฟกัสหรือวาง iPhone ไว้ในที่ชาร์จ จะทำให้เกิดภาพเคลื่อนไหวบน Dynamic Island 

ความสามารถของ Dynamic Island ยังสามารถแสดงได้มากกว่าหนึ่งแอปในแต่ละครั้ง โดยแอปที่ใช้ล่าสุดจะเป็นแอปที่โดดเด่นมากที่สุด ผู้ใช้ยังสามารถขยายการทำงานทางเลือกของ Dynamic Island ได้ โดยไม่ต้องกลับไปที่แอปพลิเคชั่น ทั้งนี้ยังมีเงาเล็กๆ ที่แต้มด้วยสีเฉพาะของแอปแสดงกิจกรรม  เมื่อมีการเปิดวิดีโอ Dynamic Island จะแปลงกลับเป็นเลย์เอาต์เริ่มต้นโดยไม่มีไอคอนพิเศษ มีการย่อวิดีโอมาเล่นในรูปแบบ Picture in Picture ในหน้าต่างวิดีโอ แต่จะไม่สามารถลากไปไว้เหนือช่องเจาะได้ 

 

DYNAMIC ISLAND เป็นหน้าจอหรือเป็นรู 

เป็นการประยุกต์ใช้พาเนล OLED อย่างชาญฉลาด สาเหตุหลักสำคัญที่ Apple สามารถซ่อนช่องว่างของ Dynamic Island อย่างแนบเนียนไร้รอยต่อราวกับว่าไม่มีสิ่งนี้ เป็นเพราะพาเนลที่ใช้คือชนิด OLED มีคุณสมบัติปิดการทำงานของเม็ดพิกเซลอย่างสมบูรณ์แบบ100% ไม่มีแสงเล็ดลอดออกมา ยากที่จะสังเกต

แต่ในกรณีที่เป็นตัวเครื่องจริง ก็ยังพอมองเห็นได้อยู่ ว่าช่องว่างตรงกลางนั้นเป็นหน้าจอ จากความต่างระดับของเลเยอร์ การสะท้อนแสงที่ไม่เท่ากัน ตรงบริเวณขอบรอบเซนเซอร์และกล้องเซลฟี่จะดูออกว่านูนติดกับกระจกและดำสนิทกว่าจอภาพที่อยู่ต่ำลงไปเล็กน้อย

แต่การเปลี่ยนนั้น ยังเปลี่ยนสิ่งที่ดูเกะกะ ไม่สบายตา ให้ดูเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของหน้าจอ เปลี่ยนจากรอยบากมาเป็นรูที่มีขนาดเล็กลง ก็อาจช่วยลดความรู้สึกเกะกะลงไปได้ส่วนหนึ่ง เพราะ Dynamic Island ก็ยังดูมีขนาดใหญ่มากอยู่ดีเมื่อเทียบกับกล้องเซลฟี่ของสมาร์ทโฟนคู่แข่ง

แต่ในส่วนของ Apple ก็แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ ที่ดึงเอาคุณสมบัติของพาเนล OLED มาประยุกต์ได้อย่างชาญฉลาด ทำ Dynamic Island ออกมากลมกลืนเหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งของหน้าจอ จะยืด หด หรือขยายเป็นวิดเจ็ตก็สามรถทำได้

 

ตัวอย่างฟีเจอร์ที่ Dynamic Island รองรับ

1.แสดงการชำระเงินเมื่อยืนยันตัวตนด้วย Face ID

2.แสดงการรับส่งไฟล์ผ่าน AirDrop

3.แสดงทิศทางการนำงานของ Apple Maps

4.แสดงภาพหน้าปกเพลงเมื่อเล่นเพลงผ่าน Apple Music

5.แสดงสถานะการเชื่อมต่อกับ AirPods รวมถึงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่

6.แสดงสถานะการชาร์จ iPhone รวมถึงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่

7.แสดงระยะเวลาที่ใช้ในการโทรและการบันทึกเสียง

8.แสดงระยะเวลาที่เหลือของนาฬิกาจับเวลา

9.แสดงจุดบ่งชี้การทำงานของกล้องหน้าและไมโครโฟน

10.แสดงไอคอนขณะเปลี่ยนโปรไฟล์เสียง

 

เปลี่ยนจุดอ่อน ให้กลายเป็นจุดขาย

Dynamic Island เป็นผลผลิตของการเอาชนะอคติด้วยแนวคิด “Keep It Simple” 

ผู้คนไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร จนกระทั่งคุณได้โชว์สิ่งนั้นออกมา ผู้ใช้งานนั้นเข้าใจดีว่าทำไมต้องมีรอยบากบนขอบจอไอโฟน แต่ปัญหาของรอยบากคือ ความเกะกะเวลามอง ทำให้รู้สึกไม่สบายตา หากมองอย่างนี้ก็ต้องทำการคิดค้น และออกแบบดีไซน์หน้าจอ ไม่ให้มีรอยบาก

หากคิดอย่าง “Keep It Simple” มีความเชื่อว่า คิดให้ง่ายที่สุด ทำให้ง่ายที่สุด แล้วจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แม้จะใช้วิธีที่ง่ายก็ตามทางบริษัทได้นำแนวคิดนี้ไปใช้เพื่อแก้ปัญหาอย่างชาญฉลาด ทำออกมาได้อย่างสร้างสรรค์โดยใช้ประโยชน์จากความเกะกะของรอยบาก หากรอยบากเคยเป็นสิ่งที่เกะกะก็แค่ทำให้ขยับไปมาและใช้งานได้จริงแทน 

 

สรุป

Dynamic Island เป็นการรวมเข้าด้วยกันระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ในด้านของฮาร์ดแวร์มีพื้นที่บนหน้าจอเจาะออกเป็น2ช่อง 1.ช่องรับเซ็นเซอร์Face ID 2.กล้องหน้า ส่วนของซอฟต์แวร์จะสามารถขยายออกเป็นรูปทรงอื่นได้ แสดงข้อมูลสำหรับแจ้งเตือนกิจกรรมชัดเจนรวดเร็ว ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงส่วนควบคุมได้ง่ายมากขึ้น และยังสามารถตอบโต้ได้อย่างทันที

ในส่วนของการนำจุดด้อยมาเป็นจุดเด่นนั้น มีการใช้แนวคิด “Keep It Simple” คิดให้ง่ายที่สุดทำให้ง่ายที่สุดและจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มองปัญหารอยบากคือความเกะกะไม่สบายสายตา สร้างสรรค์โดยใช้ประโยชน์จากความเกะกะของรอยบาก ให้ขยับได้และยังสามารถใช้งานได้จริงแทน

 

ผู้ประกอบการท่านใด ต้องการเดินบนเส้นทางธุรกิจออนไลน์ ปรึกษา Exvention ได้เลยครับ นอกจากนี้เรายัง รับทำเว็บไซต์ อีกด้วยท่านใดสนใจติดต่อเราได้เลยครับ

 

Reference :
ทำความรู้จักกับ Dynamic Island บน ไอโฟน 14 Pro ทำงานอย่างไร?
Dynamic Island ภารกิจเปลี่ยนรอยบากที่เป็นบั๊กเป็นโอกาสในธุรกิจของ ไอโฟน 14 Pro
Dynamic Island เปลี่ยนรูกล้องหน้า ไอโฟน 14 Pro ให้ว้าวกว่าเดิม
Dynamic Island บน ไอโฟน 14 Pro เป็นรูกล้อง หรือเป็นหน้าจอกันแน่
กรณีศึกษา ‘Dynamic Island’ ความสำเร็จของ ไอโฟน 14 Pro