ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน การทำ SEO (Search Engine Optimization) ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญที่สุด เนื่องจากการตลาดในโลกออนไลน์
ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ ผู้ประกอบการทุกรายต่างแสวงหาวิธีการที่ยั่งยืนและคุ้มค่าในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รู้จัก SEO เครื่องมือขับเคลื่อนธุรกิจ !
Search Engine Optimization คือกระบวนการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ ให้ติดอันดับที่ดีบนผลการค้นหาของเครื่องมืออย่าง Google
หากปฎิบัติตามหลักขั้นตอนที่ถูกต้อง จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏอยู่ในอันดับที่สูงขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถค้นหาข้อมูลสินค้า หรือบริการ
ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณได้ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเสียค่าโฆษณา นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อเนื่องให้กับผู้ประกอบการในระยะยาว
ไม่เหมือนกับการตลาดในรูปแบบโฆษณา หรือการทำ SEM ที่เมื่อคุณหยุดจ่าย โฆษณาก็จะหยุดการแสดงผลทันที ในโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง
และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเติบโตอย่างยั่งยืน จึงเป็นเป้าหมายสูงสุดของทุกองค์กร Rand Fishkin ผู้ก่อตั้ง Moz และ SparkToro กล่าวว่า
“SEO ไม่ใช่แค่เรื่องของการติดอันดับบน Google แต่เป็นเรื่องของการสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าของคุณ”
คำกล่าวนี้สะท้อนให้เห็นว่า Search Engine ไม่ได้เป็นเพียงเทคนิคหนึ่งทางการตลาด แต่เป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ครอบคลุมปัจจัยความก้าวหน้าขององค์กร
ทำไม SEO ถึงสำคัญกับทุกธุรกิจ?
ก่อนที่เราจะเจาะลึกถึงกลยุทธ์ต่าง ๆ มาทำความเข้าใจก่อนว่าทำไม SEO จึงเป็นเครื่องมือทรงพลัง สำหรับการเติบโตทางธุรกิจ
เพิ่มการมองเห็นและการรับรู้ของแบรนด์ (Visibility and Reach)
Neil Patel นักการตลาดดิจิทัลชื่อดัง กล่าวว่า “การติดอันดับสูงบน Google ไม่เพียงแต่นำ Traffic มาสู่เว็บไซต์ของคุณ แต่ยังสร้างความน่าเชื่อถือและการรับรู้
ของแบรนด์” เมื่อธุรกิจของคุณปรากฏใน ผลการค้นหาอันดับต้น ๆ อย่างสม่ำเสมอ ผู้บริโภคจะเริ่มจดจำและเชื่อมโยงแบรนด์ของคุณกับอุตสาหกรรมนั้น ๆ
ว่าเป็นธุรกิจระดับท็อป โดยเว็บไซต์ที่ปรากฏบนหน้าแรกของผลการค้นหา มักจะได้รับคลิก และการเข้าชมมากกว่าหน้าอื่น ๆ
การที่คนเข้ามาชมเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น แปลว่านั่นคือโอกาสสำหรับการเพิ่มยอดขาย หรือหนทางการหารายได้ขององค์กร
สร้าง Traffic คุณภาพสูงและตรงกลุ่มเป้าหมาย (Targeted Traffic)
SEO ช่วยให้ธุรกิจดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่กำลังค้นหาสินค้า หรือบริการที่คุณเสนอ คนที่ค้นหาข้อมูลใน Google มักจะมีความต้องการที่ชัดเจน การที่เว็บไซต์ของคุณ
ปรากฏเมื่อพวกเขาค้นหา จะทำให้คุณได้รับลูกค้าที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายขององค์กร
John Mueller ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ Webmaster Trend ของ Google เคยกล่าวว่า “การทำ SEO ที่ดีไม่ใช่การหลอกระบบ แต่เป็นการสร้างเว็บไซต์
ที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้” ดังนั้น Traffic จะมีคุณภาพสูงขึ้นได้ เนื่องมาจากมีผู้ใช้ที่กำลังค้นหาสินค้า หรือบริการคุณที่กำลังนำเสนออยู่พอดี ซึ่งมีโอกาส
แปรเปลี่ยนเป็นลูกค้าให้คุณได้สูงกว่า มากกว่า ช่องทางอื่น ๆ
Neil Patel Ref : nichepursuits
เพิ่มความน่าเชื่อถือ (Credibility and Trust)
เว็บไซต์ที่ติดอันดับสูงในผลการค้นหาของ Google จะถูกมองว่าเป็นเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับมากขึ้น เนื่องจาก Google จัดอันดับเว็บไซต์โดย
พิจารณาจากความเกี่ยวข้อง ความน่าเชื่อถือ และคุณภาพของเนื้อหา ทำให้ผู้บริโภคมองว่าคุณเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนั้น ๆ
ROI ที่สูงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการตลาด (Long-Term Growth & Cost-Effectiveness)
Eric Enge ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ก่อตั้ง Stone Temple Consulting กล่าวว่า “SEO อาจใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล แต่เมื่อเห็นผลแล้วค่า ROI จะสูงมาก
และยั่งยืนกว่าการทำ การตลาดรูปแบบอื่น” ในขณะที่การโฆษณาแบบจ่ายเงิน (PPC) อาจให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่า แต่ต้นทุนต่อการได้มาซึ่งลูกค้า
(Customer Acquisition Cost) นั้นจะสูงและสิ้นสุดทันที ที่หยุดจ่ายเงิน ในทางกลับกันนั้นการทำ SEO จะสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาว
แม้การเริ่มต้นทำอาจใช้เวลา โดยต้องการลงทุนกับการพัฒนาเว็บไซต์ และเนื้อหา แต่เมื่อเว็บไซต์ของคุณติดหน้าแรกได้เมื่อไหร่ การได้รับผู้เข้าชม
ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกต่อไป ซึ่งไม่ต้องสิ้นเปลืองงบทางการตลาดเหมือนการโฆษณาในรูปแบบแบบ PPC (Pay-Per-Click)
Eric Enge Ref : marketingspeak
Enge นั้นเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง ตรงประเด็น และมีประโยชน์ต่อผู้อ่านอยู่เสมอ เขาสนับสนุนการสร้างลิงก์ที่มีคุณภาพ
และเกี่ยวข้องกับเนื้อหา แทนที่จะใช้วิธีการที่ผิดจริยธรรม เพราะ Enge เชื่อในการใช้ข้อมูลเชิงลึก และการวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ เขาคอยเน้นย้ำ
ถึงความสำคัญของการติดตามและปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงในอัลกอริทึมของเครื่องมือค้นหา
ในปัจจุบันผู้คนทั่วโลกรวมไปถึงนักการตลาดเกือบทั้งหมด เริ่มปรับตัว และประยุกต์ใช้ AI ให้เข้ามามีส่วนร่วมกับการทำงาน Enge เองก็เป็นหนึ่งในนั้น
เขาสนับสนุนการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลและปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาด แต่ก็ยังคงเน้นย้ำผู้คนเสมอว่าต้องใช้อย่างมีวิจารณญาณ
ใช้ในทางที่ถูกให้เกิดประโยชน์
เพราะ SEO นั้นเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ต้องอาศัยทั้งความเข้าใจในเทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ
กลยุทธ์เพื่อการเติบโตทางธุรกิจ !
1. การวิจัยคีย์เวิร์ดเชิงลึกเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจ
เราจำเป็นต้องเลือกใช้คำค้นหาที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ผู้บริโภคใช้ในการค้นหา ไม่ว่าจะเป็นสินค้า หรือบริการของคุณ ดังนั้นการทำวิจัยคำค้นหา
(Keyword Research) จะช่วยให้คุณสามารถรับรู้ได้ว่า คำค้นหาใดมีโอกาสที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับที่สูงขึ้น Ahrefs เป็นหนึ่งในบริษัท
วิจัยการตลาดดิจิทัลชั้นนำ เคยรายงานผลสถิติของการทำ SEO เอาไว้ว่า “90.63% ของเนื้อหาไม่ได้รับ Traffic จาก Google เลย”
นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเลือกคีย์เวิร์ดที่ถูกต้อง ที่หลายบริษัทยังคงละเลย หรือขาดซึ่งความใส่ใจในคีย์เวิร์ดของกลุ่มลูกค้าของตนเอง
การเลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมนั้น ยังคงเป็นรากฐานสำคัญของกลยุทธ์ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จได้
วิธีการพิจารณาคำค้นหา หรือ Keyword
- ให้คุณค่ากับ Long-tail keywords : Long-tail keywords เป็นคีย์เวิร์ดที่มีความเฉพาะเจาะจงต่อกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นกว่าการใช้ Seed keywords
เพราะถึงแม้จะมีปริมาณการค้นหาที่น้อยกว่า แต่มักมีการแข่งขันที่ต่ำ และมีโอกาสในการแปรเปลี่ยนเป็นลูกค้าสูงขึ้น
- รู้จักพิจารณา Search intent : นักการตลาดที่ดีควรรู้จักวิเคราะห์ว่าผู้ใช้ต้องการอะไรจริง ๆ จากสินค้าหรือบริการ เมื่อต้องการค้นหาผ่านคีย์เวิร์ดนั้น ๆ
- ห้ามละเลยคีย์เวิร์ดของคู่แข่งทางธุรกิจ (Compettitor Keywords) : หนึ่งในสิ่งที่ทุกธุรกิจไม่ควรมองข้ามคือการศึกษา หรือวิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่คู่แข่งทางธุรกิจ
ของคุณใช้ เพื่อมองหาโอกาสใหม่ ๆ หรือแม้กระทั่งใช้ในการประเมินการแข่งขัน
- รู้จักประเมินตลาดและเทรนด์ในอนาคต : นักการตลาดที่ดีสามารถรับรู้ถึงกระแสล่วงหน้าได้จากการพิจารณาแนวโน้มการค้นหา หรือแม้กระทั่งฤดูกาล
ที่สามารถประเมินเทรนด์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ดังนั้นให้คุณค่ากับปฎิทินที่ตั้งเอาไว้หน้าคอมบ้างก็ดีนะ
2. การสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด
Brian Dean ผู้ก่อตั้ง Backlinko เคยกล่าวเอาไว้ว่า “คอนเทนต์ที่ยอดเยี่ยมไม่ได้หมายถึง การเขียนบทความยาว ๆ แต่หมายถึงการให้คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับ
คำถามของผู้ใช้” เนื่องจากคอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงยังคงเป็นหัวใจสำคัญของ Search Engine ในทุกยุคทุกสมัย ซึ่งเทคนิคในการผลิตคอนเทนต์ที่ทางเรานั้น
อยากนำมาเสนอแก่ทุกท่านในครั้งนี้ เป็นเทคนิคที่ใช้ในการตอบโต้กันไปมาระหว่างคู่แข่งทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี คือ
Skyscraper Technique ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้เพื่อสร้างเนื้อหาที่ดีกว่า และน่าสนใจกว่าเนื้อหาที่มีอยู่แล้วในอินเทอร์เน็ต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เนื้อหาของคุณ
ติดอันดับสูงในผลการค้นหา และดึงดูดลิงก์ย้อนกลับ (Backlinks) จากเว็บไซต์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แนวคิดของ Skyscraper Technique
เปรียบเสมือนกับการสร้างตึกระฟ้าที่สูงกว่าอาคารอื่น ๆ ด้วยเนื้อหาที่ ดีกว่า และ มากกว่าเนื้อหาของคู่แข่ง เพื่อให้เนื้อหาของคุณโดดเด่นและน่าสนใจมากที่สุด
หลักการสร้างคอนเทนต์ที่ส่งผลต่อการจัดอันดับ
- เนื้อหาครอบคลุมและลึกซึ้ง : ผู้เขียนควรสร้างคอนเทนต์ที่ให้ข้อมูลครบถ้วนและลงลึกในหัวข้อนั้น ๆ โดยอ้างอิง หรือใช้ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ
ในอุตสาหกรรมของธุรกิจ
- เนื้อหาของคอนเทนต์มีความสดใหม่อยู่เสมอ : ใครว่าการเขียนคอนเทนต์นั้นจำเป็นต้องเขียนบทความใหม่ ๆ เพื่อผลการค้นหาของ Search Engine เสมอไป
เราสามารถอัพเดทคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอด้วยวิธีการ เพิ่มเติมข้อมูลเข้าไปในบทความชิ้นเก่า เพื่อให้ข้อมูลหรือบทความที่เราเขียนนั้น ทันสมัยอยู่เสมอ
- ให้ความใส่ใจในมัลติมีเดีย : เขียนบทความตั้งยืดตั้งยาว ความรู้เน้น ๆ จัดเต็มแต่ไม่มีคนอ่านก็เท่านั้น อย่าลืมเพิ่มรูปภาพ วิดีโอ อินโฟกราฟิก
เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับผู้อ่านด้วยละ
- ภาษาและการเขียน ต้องอ่านเข้าใจได้ง่าย : ใจเขาใจเรา เขียนอะไรให้นึกถึงประสบการณ์ใช้งานของตัวเองเข้าไว้ เวลาต้องอ่านอะไรยาว ๆ
ควรใช้ภาษาที่เข้าใจได้ง่าย และจัดรูปแบบให้อ่านได้สะดวก
- สร้างประโยชน์และสามารถตอบคำถามของผู้ใช้ได้ : ผู้เขียนคอนเทนต์ทั้งหลายข้อนี้สำคัญเป็นอย่างมาก ผู้เขียนอย่างเราควรมุ่งเน้น
การให้คำตอบที่ตรงประเด็นกับคำถามของผู้ใช้ที่กดเข้ามาอย่างตรงไปตรงมา
3. การสร้าง E-E-A-T Factor (Experience,Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness)
Danny Sullivan ผู้ดำรงตำแหน่ง Google’s Public Liaison of Search แปลง่าย ๆ คือผู้ที่มีหน้าที่สื่อสารระหว่าง Google Search กับประชาชน จากบริษัท
Google ได้เน้นย้ำความสำคัญของ E-A-T Factor ซึ่งปัจจุบันมี E เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งตัว คือ Experience หรือประสบการณ์การใช้งานของผู้เข้าชมเว็บไซต์
โดยได้กล่าวเอาไว้ว่า “เราต้องการให้รางวัลกับเว็บไซต์ที่มีความเชี่ยวชาญ มีอำนาจ และความน่าเชื่อถือ”
ประโยคดังกล่าวทำให้นักการตลาด และผู้เขียนอย่างเราตระหนักได้ว่า การแสดงความเชี่ยวชาญ ผ่านการสร้างคอนเทนต์คุณภาพ มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรม
พร้อมสร้างโปรไฟล์ออนไลน์ที่แข็งแกร่ง สำหรับผู้เขียนและผู้เชี่ยวชาญในองค์กร และรับรองความถูกต้องของข้อมูลโดยอ้างอิงจากแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือ
จะทำให้อันดับของบทความที่เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าวนั้น ถูกประเมินการจัดอันดับให้สูงขึ้นบนหน้า Serp ของ Google อย่างแน่นอน
ปัจจุบันการที่ Google นั้นได้เพิ่มเรื่องประสบการณ์ใช้งานบนเว็บไซต์เข้ามาในการจัดอันดับ เนื่องมาจากต้องการสะท้อนให้ผู้ประกอบการเห็นถึงความสำคัญ
ของประสบการณ์ผู้ใช้มากยิ่งขึ้น โดยผ่านการประเมินด้วย Core Web Vitals เพื่อลดอัตราการตีกลับ (Bounce Rate) ของเว็บไซต์
4. การสร้าง Backlinks คุณภาพสูง
การสร้าง Backlinks คุณภาพสูงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่มีผลอย่างมาก ต่อการจัดอันดับของเว็บไซต์บนเครื่องมือค้นหา เพราะ Backlinks
ไม่เพียงช่วยเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์จากแหล่งอื่น ๆ แต่ยังช่วยส่งสัญญาณให้เครื่องมือค้นหารู้ว่าเว็บไซต์ของคุณ มีความน่าเชื่อถือและมีคุณภาพสูงมากขึ้น
ซึ่งมันมีประโยชน์อย่างมากต่อทุกธุรกิจ ผ่านการให้คะแนนโดเมนของเว็บไซต์นั้น ๆ ที่หลายคนรู้จักในค่า Dr และ Da
Eric Ward ผู้ก่อตั้ง NetPOST ซึ่งเป็นธุรกิจการสร้างลิงค์และการประชาสัมพันธ์เนื้อหารายแรกบนเว็บ และผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างลิงก์
ได้กล่าวเอาไว้ว่า “ลิงก์ที่ดีที่สุดคือลิงก์ที่คุณไม่ต้องขอ แต่ได้มาเพราะคุณสร้างสิ่งที่คู่ควรกับการลิงก์”
โดยวิธีการสร้างการเชื่อมต่อกันระหว่างลิงก์ที่ให้คุณภาพที่ดีนั้นมีด้วยกันหลากหลายวิธีการ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าสูงและน่าแชร์
เช่น รายงานการวิจัยที่จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำความเข้าใจได้ง่าย อาจจะใช้การผสมผสานกันเข้ากับ infographics ที่น่าดึงดูด
รวมไปถึงการใช้เทคนิค Digital PR เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับสื่อและผู้มีอิทธิพลในธุรกิจนั้น ๆ เพื่อสร้างเครือข่ายและโอกาสในการได้ลิงก์
5. อย่ามองข้ามการทำ Technical
ในหลาย ๆ ครั้งบริษัทจำนวนมากที่พยายามผลักดันธุรกิจของตนให้เข้าสู่โลกดิจิทัล มักให้ความสำคัญกับด้าน On-Page มาเป็นอันดับหนึ่ง
ความคิดเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลของการมองข้ามอีกหนึ่งหัวใจสำคัญอย่างด้าน Technical
เพราะ การทำ Technical จะช่วยปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ และความเร็วในการโหลดของเว็บไซต์ ทำให้ Google เข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น ส่งผลให้
ด้าน On-Page มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพิ่มโอกาสในการจัดอันดับที่สูงขึ้นในผลการค้นหา
John Mueller ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ Webmaster Trend ของ Google ยังเคยเน้นย้ำว่า “Technical เป็นพื้นฐานสำคัญ
ถ้าเว็บไซต์ของคุณไม่สามารถเข้าถึง หรือเข้าใจได้ คอนเทนต์ที่ยอดเยี่ยมก็ไม่มีความหมาย”
Content is King คือคำติดปากของยอดนักเขียน หรือแม้กระทั่งครีเอทีฟมากฝีมือหลายคน แต่การทำ SEO นั้น หากโฟกัสแค่ On-Page เพียงอย่างเดียว
อาจทำให้เว็บไซต์ของคุณทั้งหลายขาดประสิทธิภาพโดยรวม จนถึงขั้นเขียนดีให้ตายแต่คนไม่กดเข้ามาอ่านก็เท่านั้น อธิบายให้เข้าใจได้ง่าย คือ แม้จะมีเนื้อหาที่ดี
แต่ถ้าเว็บไซต์ช้า หรือมีปัญหาในการใช้งาน ผู้ใช้ก็อาจไม่อยู่บนเว็บไซต์ของคุณได้นาน และ Google มองทั้งเนื้อหาและประสบการณ์ของผู้ใช้ รวมถึงปัจจัยทาง
เทคนิคนำมาผนวกเข้าด้วยเพื่อใช้ในการจัดอันดับ ดังนั้นหากทุกบริษัทใส่ใจการทำ Technical ให้ดีมันจะกลายเป็นตัวช่วยให้เนื้อหาสามารถถูกค้นพบ
และผู้คนสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น การบูรณาการทั้ง Technical, On-page และ Off- page จะทำให้เนื้อหาเกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
สรุป
SEO เป็นกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตระยะยาวของธุรกิจ โดยช่วยเพิ่มการมองเห็น แบรนด์ สร้างทราฟฟิกคุณภาพสูง และให้ ROI ที่ดีในระยะยาว
ซึ่งกลยุทธ์ SEO ที่มีประสิทธิภาพนั้นประกอบด้วยการวิจัยคีย์เวิร์ดเชิงลึก การสร้างคอนเทนต์คุณภาพสูง การสร้าง E-E-A-T Factor เพื่อปรับปรุงประสบการณ์
ผู้ใช้ รวมไปถึงการสร้าง backlinks ที่มีคุณภาพ และการทำ technical SEO ที่แข็งแกร่งสิ่งเหล่านี้คือหัวใจสำคัญในการดันหน้าเว็บธุรกิจให้ติดหน้าแรกของ google
*ท่องเอาไว้ On-page, Off-page และ Technical คือองค์ประกอบ 3 ก้อนขนาดใหญ่ที่ใครก็ห้ามมองข้าม
บริษัท EXVENTION มีบริการสร้างเว็บไซต์ พัฒนาซอฟต์แวร์ และดูแลการตลาดอย่างครบวงจร
ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญใน การทำ SEO ที่ประสบความสำเร็จ
เพราะประสบการณ์การใช้งานที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้กับผู้ใช้
แต่ยังเป็นปัจจัยที่ Google ให้ความสำคัญในการจัดอันดับอีกด้วย
Reference :
E-E-A-T คือไม้เด็ด ช่วยงัดประสิทธิภาพ SEO ให้ปัง
SEROUNDTABLE
The Moz Blog
มองขาดหนท่งสู่การทำ SEO
The Definitive Guide