webapplication

Web Application คืออะไร ทำไมสามารถสร้างจุดเด่นให้ธุรกิจ

ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีต่าง ๆ ได้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดและรวดเร็ว คำว่า Web หรือ Website คงเป็นคำที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นช่วงอายุใดก็ตาม โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ที่เติบโตมาพร้อมกับอินเทอร์เน็ต แต่รู้หรือไม่ว่ามันยังมีสิ่งที่เรียกว่า Web Application อยู่ด้วย และหลายคนก็ยังสับสนอยู่ว่า มันแตกต่างจากเว็บไซต์ปกติทั่วไปอย่างไร วันนี้ Exvention จะมาไขข้อข้องใจเรื่องนี้ ว่า Web App คืออะไร และมีผลต่อการทำการตลาดอย่างไร

Web Application คืออะไร

Web Application คือ แอปพลิเคชันประเภทหนึ่งที่เขียนขึ้นเพื่อใช้งาน โดยสามารถแสดงผลผ่าน Browser หรือเว็บบราวเซอร์ได้โดยไม่ต้องติดตั้งแอปฯ นั่นหมายความว่าสามารถใช้งานจาก Browser ได้โดยตรง จึงทำให้ Web App นั้นใช้เพียงแค่อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและเปิด Browser ก็สามารถเริ่มใช้งานได้ทันทีไม่จำเป็นต้องลงโปรแกรมอะไรให้ยุ่งยาก

ทำให้กินทรัพยากรเครื่องของเราค่อนข้างต่ำและสามารถเปิดใช้งานได้ไว โดยปัจจุบัน Web App นั้นก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะใช้งานง่าย ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมให้วุ่นวายเหมือนโปรแกรมอื่น ๆ

อีกทั้งยังถูกปรับปรุงให้Web App มีการทำงานได้รวดเร็วกว่าการเปิด Application แบบปกติ ส่งผลให้หน้าตา UI เป็นมิตรและเข้าใจง่ายด้วยกระบวนการ UX Design ซึ่งอาจต้องอาศัยความรู้เรื่องการออกแบบ UX UI ควบคู่ไปด้วย หากท่านใดยังสงสัยเรื่อง UX UI สามารถอ่านได้ที่บทความ เข้าใจ UX UI เพื่อใช้พัฒนาธุรกิจบน Digital Platform

โดยในปัจจุบันแล้วการเปิดขึ้นของ Web App มีค่อนข้างหลากหลายตั้งแต่การใช้งานที่ใหญ่ถึงระดับโลกจนถึงหน่วยงานต่าง ๆ ก็มีเว็บแอปเป็นของตัวเองเช่นกัน

 

webflow

Reference: ภาพจาก educba.com

 

การทำงานของ Web Application

การทำงานของ Web Application นั้นโปรแกรมส่วนหนึ่งจะวางตัวอยู่บน Rendering Engine  ซึ่งตัว Rendering Engine จะทำหน้าที่หลัก ๆ คือนำเอาชุดคำสั่งหรือรูปแบบโครงสร้างข้อมูลที่ใช้ในการแสดงผล  นำมาแสดงผลบนพื้นที่ส่วนหนึ่งในจอภาพ

โปรแกรมส่วนที่วางตัวอยู่บน Rendering Engine จะทำหน้าที่หลัก ๆ คือการเปลี่ยนแปลงแก้ไขสิ่งที่แสดงผลจัดการตรวจสอบข้อมูลที่รับเข้ามาเบื้องต้นและการประมวลบางส่วนแต่ส่วนการทำงานหลัก ๆ จะวางตัวอยู่บน Server

ในลักษณะ Web Application แบบเบื้องต้น ฝั่งเซิร์ฟเวอร์จะประกอบไปด้วย Web Server ซึ่งทำหน้าที่เชื่อมต่อกับ Client ตามโปรโตคอล  HTTP/HTTPS  โดยนอกจาก Web Server จะทำหน้าที่ส่งไฟล์ที่เกี่ยวเนื่องกับการแสดงผลตามมาตรฐาน HTTP ตามปกติทั่วไปแล้ว Web Server จะมีส่วนประมวลผลซึ่งอาจจะเป็นตัวแปลภาษา เช่น Script Engine ของภาษา PHP

หรืออาจจะมีการติดตั้ง .NET Framework ซึ่งมีส่วนแปลภาษา CLR (Common Language Runtime) ที่ใช้แปลภาษา intermediate จากโค้ดที่เขียนด้วย VB.NET หรือ C#.NET  หรืออาจจะเป็น J2EE  ที่มีส่วนแปลไบต์โค้ดของคลาสที่ได้จากโปรแกรมภาษาจาวา เป็นต้น

อธิบายง่าย ๆ คือ

การทำงานนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง

ฝั่งแรก ทำงานอยู่บน Rendering Engine ซึ่งจะทำหน้าที่นำเอาชุดคำสั่งหรือรูปแบบคำสั่ง นำมาแสดงบางส่วนในหน้าจอ ซึ่งทำหน้าที่ แก้ไข เปลี่ยนแปลงสิ่งที่แสดงผล ตรวจสอบข้อมูลที่ Input เข้ามาและประมวลผลออกมาบางส่วน

ฝั่งที่สอง ทำงานในส่วนของ Server ซึ่งประกอบไปด้วยเว็บเซิร์ฟเวอร์ซึ่งทำหน้าที่เชื่อมต่อกับไคล์เอนด์ โดยนอกจากจะทำหน้าที่รับส่งไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานของ HTTP แล้ว ยังมีส่วนที่ประมวลผลซึ่งอาจจะแปลตัวภาษา

เข้าสู่ “ช่วงขายของ”

จะเห็นได้ว่าการทำงานของมัน ค่อนข้างที่จะเข้าใจยากนิดนึง แต่หากผู้ประกอบการท่านใดต้องการ Web Application เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น

  • การคำนวณค่าต่าง ๆ
  • ระบบ Membership
  • ระบบซื้อขายแบบ eCommerce
  • ระบบ Payment Gateway (การชำระเงิน)
  • ระบบแผนที่ หรือมุมกล้อง 360 องศา
  • ระบบเก็บข้อมูล CRM
  • และอื่น ๆ ตามที่ต้องการ

สามารถติดต่อ Exvention ได้เลย พวกเรามีพร้อมทุกบริการครับ !

 

ความแตกต่างของ Website และ Web Application

บางคนอาจเกิดข้อสงสัยว่า Website กับ Web Application นั้นก็เหมือนกันเพราะเปิดจาก Web Browser เหมือนกัน…

เปล่าเลย มันแตกต่างกัน แต่ว่า ณ ขณะนี้เว็บไซต์ส่วนใหญ่ก็ถูกปรับให้เป็น Web App เกือบหมดแล้ว โดยข้อแตกต่างของ Website และ Web App มีดังนี้

ข้อแตกต่างด้านการใช้งาน

  • Website : คือหน้าเพจที่ถูกจัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูล สารสนเทศ (Information Technology) และมีการเชื่อมโยงข้อมูลไปยังเว็บเพจต่าง ๆ ตามแต่รูปแบบของเว็บไซต์นั้นได้กำหนดและตั้งค่าไว้ โดยเว็บไซต์นี้เน้นให้ผู้คนเข้ามา “ดู” เป็นหลัก
  • Web App : ทำหน้าที่คล้ายกับเว็บไซต์ แต่จะสามารถเป็นแอปพลิเคชันได้ด้วย คือเน้นให้ผู้คนเข้ามา “ใช้งาน” มากกว่าดู เช่น เว็บแอปแปลงค่าน้ำหนัก เว็บแอปคิดปริมาณแคลอรี เว็บแอปดูเวลาโลก ส่วนมากแล้วจะมีการใช้งานที่คล่องตัว รวดเร็ว และสบายตากว่าเว็บไซต์ปกติ เนื่องจากเน้นใช้งานในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นหลัก

 

ข้อแตกต่างด้าน UI

  • Website : มักเน้นความสวยงาม ดึงดูด บางเว็บก้มีความซับซ้อนบ้างพอประมาณ มีลิงก์ต่าง ๆ เพื่อให้คนที่เข้ามาสามารถเปิดดูเว็บเพจภายในเว็บไซต์ได้
  • Web App : มุ่งไปที่ความเรียบง่าย สะอาด บางครั้งหน้าเว็บแอปพลิเคชันก็จะแสดงโปรแกรมและฟังก์ชันต่าง ๆ ขึ้นมาตรง ๆ แบบไม่ตกแต่งอะไรมาก เนื่องจากต้องการให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานมันได้อย่างรวดเร็วที่สุด

 

ข้อแตกต่างด้าน UX

  • Website : โดยรวมแล้วหน้าเว็บไซต์แต่ละหน้ามักมีความซับซ้อนค่อนข้างต่ำ จะหนักไปในเชิงการตกแต่งและจัดรูปแบบให้เหมาะสมกับความชอบของผู้เข้าชม
  • Web App : มีความซับซ้อนและยุ่งยาก อาจต้องใช้ผู้มีเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อจัดการและออกแบบแอปพลิเคชัน รวมถึงฟังก์ชันภายในให้ใช้งานได้ง่าย จะออกแบบอย่างไรให้สิ่งที่ซับซ้อน กลายเป็นสิ่งที่คนไม่เคยใช้ก็ “ใช้งานได้”

ท่านใดยังไม่เข้าใจเรื่อง UX UI สามารถอ่านได้ที่ เข้าใจ UX UI เพื่อใช้พัฒนาธุรกิจบน Digital Platform

 

ข้อดีของการทำ Website

  1. เป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทางอินเตอร์เน็ต ที่ใช้เพื่อการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การตลาด ให้ข้อมูลข่าวสาร และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่ธุรกิจและองค์กร
  2. สามารถนำมาใช้เป็นร้านค้าออนไลน์เพื่อจำหน่ายสินค้าและบริการ
  3. มีประสิทธิภาพเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทั่วโลก
  4. เสียค่าใช้จ่ายในการผลิตต่ำกว่าสื่ออื่น ๆ แต่มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า สามารถอัพเดทข้อมูลเปลี่ยนแปลงได้ง่าย
  5. กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงสื่อได้โดยสะดวกและรวดเร็วผ่านอินเตอร์เน็ตได้ ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
  6. เป็นระบบ Could ที่เก็บข้อมูลจากหลายแหล่งได้ในเวลาเดียวกันและ สามารถใช้ได้ทั้ง Desktop Mobile Tablet ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม เมื่อมีข้อมูลใหม่ สามารถอัพเดทมาแสดงผลได้ทันที (Push)

 

ข้อดีของการทำ Web App

  1. Web App เหมาะกับองค์กรขนาดเล็กเพราะมีค่าใช้จ่ายต่ำ และคิดค่าใช้จ่ายตามจำนวนการใช้งานจริง
  2. การใช้งานในองค์กรทำได้ง่าย เพียงแค่มี Web Browser ซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐานในคอมพิวเตอร์ปัจจุบันแทบทุกเครื่องก็ใช้งานได้
  3. ข้อมูลจัดเก็บที่เดียว ง่ายต่อการจัดการ และไม่เกิดความซ้ำซ้อน
  4. ไม่ต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงซึ่งมีราคาแพง
  5. อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้เพราะสามารถล็อกอินเข้าใช้งานได้เลยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม
  6. ไม่ต้องมีบุคลากรด้านเทคนิคเป็นของตัวเอง เพราะผู้ให้บริการดูแลเซิฟเวอร์และการบำรุงรักษาเองทั้งหมด
  7. ส่วนมากใช้ได้หลากหลาย Platform ทั้ง Windows, Linux และ Mac ทำให้องค์กรสามารถเลือกใช้บางเครื่องเป็น Linux ได้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านลิขสิทธ์
  8. เชื่อมต่อกับ Web App หรือบริการออนไลน์อื่น ๆ ได้ง่าย

 

เพิ่มประสิทธิภาพการทำ Marketing ด้วย Web App

Web App (เว็บแอปพลิเคชัน) จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานแอปพลิเคชันในฝั่งของผู้ใช้งาน และเพิ่มเปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้งานให้สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันของเราได้มากขึ้น เนื่องจาก Web App นั้นถูกออกแบบมาให้เข้าถึงได้ง่าย จึงทำให้มีโอกาสที่ยอดผู้ใช้งานนั้นจะสูง นอกจากนั้นการมีเว็บแอปพลิเคชันเป็นของตัวเอง ก็เป็นการสร้างจุดเด่นให้กับองค์กรหรือธุรกิจอีกด้วย

 

สรุปว่า

Web App นั้นหมายถึง การพัฒนาระบบบนเว็บ ซึ่งข้อมูลมีการไหลเวียนข้อมูลในระบบที่สดใหม่ และอัพเดตอยู่ตลอดเวลาในระบบ Online ตั้งแต่หน่วยงานที่ใหญ่ระดับโลกถึงเล็กระดับองค์กร ซึ่งเหมาะกับงานที่ต้องใช้ระบบและข้อมูลแบบ Real Time ซึ่งมีประสิทธิภาพ และใช้งานได้ง่าย โดยที่ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติมขึ้นมานั่นเอง

Web App นั้นมีข้อดีคือผู้ใช้งานไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมหรือแอปฯ ให้วุ่นวาย เพียงแค่มีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ Internet และเปิดใช้งาน Web App ผ่าน Browser เว็บแอปพลิเคชันก็พร้อมใช้งานทันที นอกจากนั้นการพัฒนาก็ถือว่าไม่สิ้นเปลืองหากเทียบกับการพัฒนาแอปฯ ในรูปแบบอื่น

ทั้งนี้  Web App สามารถตอบสนองปัญหาข้างต้นได้เป็นอย่างดี และสามารถแทนที่ Desktop Application ที่เป็น Client-Server Application ได้เป็นอย่างดี ตัวโปรแกรมของ Web App จะถูกติดตั้งไว้ที่ Server คอยให้บริการกับ Client และที่ Client ก็ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติม

สามารถใช้โปรแกรมประเภท Brower ที่ติดมากับ OS ใช้งานได้ทันที อย่าง Internet Explorer หรือโปรแกรมฟรี ได้แก่ FireFox, Google Chrome ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ด้วยความสามารถของ Brower ที่หลากหลาย ทำให้ไม่จำกัดว่าเครื่องที่ใช้เป็น OS อะไร หรืออุปกรณ์อะไร อย่างอุปกรณ์ TouchPad หรือ SmartPhone ก็สามารถเรียกใช้งานได้ ลดข้อจำกัดเรื่องสถานที่ใช้งานอีกด้วย

 

ผู้ประกอบการท่านใด ต้องการเดินบนเส้นทางธุรกิจออนไลน์ ปรึกษา Exvention ได้เลยครับ

นอกจากนี้เรายัง รับทำเว็บไซต์ อีกด้วยท่านใดสนใจติดต่อเราได้เลยครับ

 

Reference :

เว็บแอพพลิเคชั่น คืออะไร | ข่าวสารด้านไอทีและเทคโนโลยีใกล้ตัว เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น – Dailytech

ความหมายและความแตกต่างระหว่าง Web App และ Web Service | by Apisit Jitkeaw | Medium

Web App คืออะไร? ต่างจากเว็บไซต์ทั่วไปอย่างไร? | Firstcraft (1stcraft.com)

ไขข้อข้องใจ Web App คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง? (advancedis.co.th)