Motion Graphic เป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับการทำธุรกิจในยุคนี้ เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงต้องเคยได้ยินคำว่า Motion Graphics กันมาบ้าง โดยวันนี้ Exvention ก็จะมาเจาะลึกในเรื่องของ Motion Graphics กัน เพื่อให้คนทำธุรกิจได้เสริมสร้างธุรกิจตัวเองด้วย Motion Graphics อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Motion Graphics คือ
Motion Graphics (โมชั่นกราฟิก) หมายถึง กราฟิกที่สามารถเคลื่อนไหวได้โดยการนำมาจัดเรียงต่อกัน ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือการทำให้ภาพวาด 2 มิติ สามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนกับการทำการ์ตูนแอนิเมชั่น โดยในปัจจุบันหลาย ๆ ธุรกิจก็ได้มีการนำ Motion graphics มาทำเป็นสื่อออนไลน์กันอย่างแพร่หลาย
เพราะการทำสื่อด้วย Motion graphics นั้นจะสามารถอธิบายและทำความเข้าใจได้ง่ายเมื่อถูกสื่อสารออกไป แต่เชื่อว่าก็ยังมีหลายคนที่ยังคงคุ้นชินอยู่กับคำว่า Infographics อยู่เพราะฉะนั้นก่อนจะไปเจาะลึกขั้นตอนการทำ Motion Graphics เรามาดูความแตกต่างระหว่าง Info Graphics และ Motion Graphics กันก่อนดีกว่า
ข้อแตกต่างระหว่าง Motion Graphics และ Infographics
Infographics คือการเล่าเรื่องหรืออธิบายข้อมูล เช่น สถิติ ตัวเลข ข่าวสาร ความรู้ โดยใช้ภาพในการสื่อสาร ทั้งในรูปแบบของกราฟ แผนภูมิ แผนผัง สัญลักษณ์ โดยข้อมูลจะถูกย่อยให้เข้าใจได้ง่าย ทั้งยังมีการออกแบบสี รูปแบบ ลูกเล่น และภาพประกอบให้สวยงาม เพื่อดึงดูดใจผู้อ่านอีกด้วย
Motion Graphics คือการนำกราฟิกมาขยับและเคลื่อนไหวให้เกิดความน่าสนใจซึ่งจะช่วยสร้างความสนุกสนานให้กับงานกราฟิก เพื่อมีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ข้อดีที่ควรหันมาทำ Motion Graphics แทนที่ Infographics
- Motion Graphics สามารถเข้าถึงความรู้สึกผู้บริโภคได้มากกว่า Infographics เพราะ Motion Graphics สามารถเล่าเรื่องและสื่อความหมายได้มากกว่า Infographics แถม Motion Graphics ยังสามารถสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ได้ดีกว่าด้วย เช่น ภาพเคลื่อนไหวของโลโก้แบรนด์ ภาพตัวการ์ตูน หรือสินค้าที่สามารถขยับได้เพื่อสร้างภาพจำให้ลูกค้า เป็นต้น
- Motion Graphics เล่าเรื่องได้ชัดเจนกว่า Infographics เพราะใน Infographics 1 ภาพ ผู้รับสารอาจตีความไปได้หลากหลายความหมาย แต่สำหรับ Motion Graphics จะเป็นวิดีโอที่ทำให้เห็นเรื่องราว เพื่อการตีความชัดเจนยิ่งขึ้น
- Motion Graphics ทำให้คอนเทนต์ไม่น่าเบื่อ เนื่องจาก Motion Graphics เป็นการใช้ภาพ เสียง และองค์ประกอบอื่น ๆ มาสร้างเป็นภาพเคลื่อนไหวสั้น ๆ จึงจะช่วยให้คอนเทนต์ที่ต้องสารสื่อสารมีความน่าสนใจมากขึ้น แถมยังช่วยดึงดูดใจลูกค้าให้สนใจได้ด้วย Mood & Tone และเกิดภาพจำที่ดีต่อแบรนด์มากกว่า Infographics
เพราะฉะนั้นการนำ Motion Graphics เข้ามาช่วยส่งเสริมธุรกิจจึงดีกว่ากว่าทำ Infographics แบบเดิมๆ แต่ถึงอย่างนั้นในการ Motion Graphics ก็จะต้องมีผู้ออกแบบและสร้างสรรค์ตัว Motion graphics ที่ต้องมีพื้นฐานความรู้ความเข้าใจในการใช้โปรแกรมและในด้านการออกแบบด้วย โดยวันนี้เราก็จะมาบอกขั้นตอนในการทำ Motion Graphics กันว่าจะยากง่ายแค่ไหน แล้วมี Step การทำงานอย่างไรบ้าง
ขั้นตอนในการทำ Motion Graphics
- Direction Concept โดยขั้นตอนนี้จะเริ่มขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราได้ความต้องการของลูกค้ามาแล้ว รู้แล้วว่า ลูกค้าต้องการขายสินค้าอะไร หรือคอนเซปของแบรนด์ลูกค้าเป็นอย่างไร เพื่อมาวางโครงสร้างทิศทางของเนื้อเรื่องที่จะเล่า โดยส่วนใหญ่ Direction Concept จะมีโครงเรื่องมาให้เลือกมากกว่า 1 โครงเรื่องเพื่อที่จะได้เขียน Script เล่าได้ต่างกันเป็นแนวทางให้ลูกค้าเลือก
- Mood board ขั้นตอนนี้มีไว้เพื่อกำหนดอารมณ์ของงานให้ทั้งทีมงานและลูกค้า สามารถเห็นภาพไปในทิศทางเดียวกันได้ โดยการกำหนด Mood board ส่วนใหญ่จะใช้สี สไตล์ของคาแรกเตอร์ หรือรูปแบบตัวอักษร มากกว่า 2 รูปแบบ เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพมากขึ้น ซึ่งขั้นตอนนี้ Motion Graphic Designer จะออกแบบควบคู่กับ Creative
- Script ขั้นตอนนี้เมื่อลูกค้าเลือก Direction Concept มาแล้ว Creative ก็จะนำไปเขียน Script ต่อ โดย แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ คือ
3.1 Introduction คือส่วนเริ่มแรกที่ต้องเล่าเรื่องให้น่าสนใจ และน่าติดตามมากที่สุดเพื่อเชื่อมโยงต่อไปที่ Main Idea
3.2 Main Idea คือใจความหลักของเนื้อเรื่อง ใช้ในการขายประโยชน์ของ Product
3.3 Ending คือการสรุปเรื่องราวทั้งหมดผ่าน Keyword สั้น ๆ เพื่อที่จะบอกอะไรกับคนดู หรือให้คนดูรู้สึกอะไร
- Storyboard คือขั้นตอนที่เอา Script มาบอกเล่าคู่กับภาพ ซึ่งขั้นตอนนี้ Motion Graphic Designer จะเป็นคนทำ เพื่อทำให้เห็นภาพและเข้าใจตรงกันของทีมงานและลูกค้า โดยแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน คือ
4.1 Storyboard คือการสเก็ตภาพง่าย ๆ คู่กับสคริปต์เพื่อเล่าเรื่องราวให้เห็นภาพมากขึ้น โดยการเขียนจะเล่าประมาณว่า ภาพนี้สื่ออะไร มีการเคลื่อนไหวแบบไหน เพื่อง่ายต่อการแก้ไขในอนาคต
4.2 Storyboard AI เมื่อสเก็ตภาพ Storyboard แล้ว ก็ต้องนำแต่ละฉากไปขึ้นใน Adobe illustrator เพื่อทำเป็นฉากพร้อม Animate แล้วนำมาเรียงเป็น Storyboard ตาม Mood board ที่ลูกค้าเลือก
5. Animate คือการนำฉากที่สร้างใน Adobe illustrator มาแยก layer และทำให้เคลื่อนไหวใน Adobe After Effect โดยก่อน Animate ควรอัดเสียงไกด์ตาม Script ก่อน เพื่อจะได้ Animate ภาพได้ตามเสียงโดยไม่ผิดเพี้ยนไป
6. Mix Sound คือขั้นตอนหลังจาก Animate เสร็จแล้ว นั้นก็คือการอัดเสียงที่ใช้บรรยาย Motion Graphics โดยการอัดเสียงต้องอัดที่ห้องอัดเสียง เพื่อทำให้ได้เสียงออกมาที่มีคุณภาพมากที่สุด
โดยทั้งหมดนี้คือขั้นตอนที่ใช้ในการทำ Motion graphics อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากรู้สึกว่าขั้นตอนในการทำ Motion graphics นั้นยุ่งยากมากเกินไป เราก็มีทางออกมาให้เพียงแค่ติดต่อบริษัท Exvention เราก็พร้อมที่จะสร้าง Motion graphics ที่ดีที่สุดเพื่อคุณ
รูปแบบโฆษณาผ่านสื่อ Social Media ด้วย Motion Graphics
- โฆษณาในรูปแบบวิดีโอ (Video Ad) คือการใช้วิดีโอที่มีการเคลื่อนไหว เพื่อดึงดูดสายตา โดยหากต้องการทำโฆษณาผ่าน Instagram และ Facebook ก็จะต้องเน้น สั้น กระชับ และดึงดูดใจ เนื่องจากปัจจุบันนี้ความสนใจของผู้คนลดลงเหลือแค่ประมาณแปดวินาทีเท่านั้น เพราะฉะนั้นเนื้อหาสั้นจึงดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้มากกว่าเสมอ
- โฆษณาผ่านคอลเลกชั่น (Collection Ads) คือรูปแบบโฆษณาที่ปรากฏขึ้นเป็นการผสมผสานระหว่างเนื้อหาหลักขนาดใหญ่หนึ่งรายการตามด้วยเนื้อหารองที่เล็กกว่า โดยเนื้อหาหลักจะเรียกว่า “ชิ้นงานโฆษณาตัวหลัก” และเนื้อหารองที่เล็กกว่าจะเรียกว่า “ชิ้นงานโฆษณารอง”
โดยเมื่อผู้ใช้แตะโฆษณาคอลเลกชัน ก็จะสามารถรับชมแบบเต็มหน้าจอในระยะใกล้และโฆษณารองได้มากถึง 24 ชิ้น เห็นได้ชัดจาก Instagram ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรูปภาพ ที่ทำภาพสไลด์ให้กลายมาเป็นในรูปแบบการโฆษณา ซึ่งเราสามารถใส่ภาพได้มากถึง 10 รูปต่อวิดีโอ และกลุ่มเป้าหมายก็สามารถเลือกดูได้เพียงปัดข้างเท่านั้น - โฆษณาผ่าน (Stories Ads) คือฟังก์ชันที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถ Engage กับผู้ติดตามได้อย่างเป็นมิตรและเป็นธรรมชาติ ด้วยตำแหน่งที่สะดุดตาของ Stories ใหม่ ๆ ทำให้ผู้ใช้ต้องกดเข้าไปดู และโฆษณาของเราก็มีโอกาสที่จะได้รับความสนใจสูงมากทั้งใน Instagram และ Facebook
สรุป
Motion Graphics เป็นการนำกราฟิกธรรมดา ๆ มาขยับและเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดความน่าสนใจ และยังสามารถบอกเล่าเรื่องราวได้อย่างมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลให้การสื่อสารเรื่องราวต่าง ๆ ในทางธุรกิจ ๆ จึงมีประสิทธิภาพดีมากยิ่งขึ้นกว่าการทำกราฟิกแบบเดิม ๆ
ผู้ประกอบการท่านใด ต้องการเดินบนเส้นทางธุรกิจออนไลน์ ปรึกษา Exvention ได้เลยครับนอกจากนี้เรายัง รับทำเว็บไซต์ อีกด้วยท่านใดสนใจติดต่อเราได้เลยครับ
Reference :
ทำไม motion graphic จึงเป็นรูปแบบการโฆษณาที่เพจไม่ควรพลาด
เบื้องหลังการทำ motion graphic 1 ชิ้น
ทำความรู้จักกับ Motion Graphic ขั้นกว่าของการทำ Graphic Design