เชื่อว่าในยุคสมัยนี้ ที่โลกของกำลังเปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ก็คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับคำว่า Social Media เพราะมันอยู่กับเราแทบจะทุกเวลาตั้งแต่ตื่นเช้า ทำงาน หรือก่อนนอน และนอกจากนี้ Website ก็เป็นอีกคำที่ตามมา จนหลายคนอาจจะเกิดข้อสงสัยว่า แล้วตกลงโซเชียลมีเดีย กับ Website มันแตกต่างกันยังไง
วันนี้ Exvention จะมาช่วยไขข้อสงสัย พร้อมหาคำตอบในคำถามของทุกคน เอาล่ะค่ะ ไม่เสียเวลาเรามาดูกันเลย
Social Media คือ
Social Media (โซเชียล มีเดีย) ถ้าแปลเป็นไทยง่าย ๆ ก็คือ “สื่อสังคม” นั้นเอง โดยสื่อสังคมที่ว่านี้ หมายถึง แพลตฟอร์มที่มีไว้ให้ผู้คนในโลกได้แชร์ประสบการณ์และช่วงเวลา ผ่านข้อความ รูปภาพ วิดีโอ ที่สื่อถึงความรู้สึกนึกคิดหรือกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะเรียกง่าย ๆ ให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นก็คือ การสร้างสังคม “โซเชียล มีเดีย บนโลกออนไลน์นั่นเอง
และเมื่อเริ่มมีผู้ใช้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ความนิยมก็กลายมาเป็นประโยชน์ ก่อเกิดจุดเริ่มต้นของอะไรใหม่ ๆ มีการกำเนิดธุรกิจบน โซเชียล มีเดีย เช่น การโปรโมทสินค้า การสร้างฐานลูกค้า หรือการติดต่อกับลูกค้า เป็นต้น กลายเป็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่า โซเชียล มีเดีย มีบทบาทในการติดต่อสื่อสารระหว่างกันและการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ มีแม่ค้าออนไลน์หลายคนใช้ โซเชียล มีเดีย ทำธุรกิจกันจนประสบความสำเร็จ ไม่น้อยแล้วนะคะ
ประเภทของ Social Media
โดย โซเชียล มีเดีย แบ่งออกได้เป็นหลาย ๆ ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็ไม่ได้มีลักษณะจำเพาะ ตายตัว เพราะจะขึ้นอยู่กับลักษณะของการนำมาใช้งาน ว่าแต่ โซเชียล มีเดีย จะมีประเภทอะไรบ้าง มาดูกัน
- Weblogs หรือ Blogs เป็นสื่อส่วนบุคคลบนอินเทอร์เน็ตที่ใช้เผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ หรือบันทึกส่วนตัว โดยการแสดงเนื้อหาของบล็อกจะเรียงลำดับจากเนื้อหาใหม่ไปสู่เนื้อหาเก่า ให้ผู้เขียนและผู้อ่านค้นหาเนื้อหาย้อนหลังเพื่ออ่านและแก้ไขเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา
- Social Networking เป็นเครือข่ายสังคมในอินเทอร์เน็ต ที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารกันระหว่างบุคคล หรือกลุ่มสังคม (Social Community) เพื่อแบ่งปันข้อมูลข่าวสารกันในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านธุรกิจ การเมือง การศึกษา หรือข่าวประจำวัน
- Online Video เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการวิดีโอออนไลน์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งในปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างและขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเนื้อหาในวิดีโอออนไลน์จะไม่ถูกจำกัดและผู้ใช้บริการสามารถรับชมได้อย่างต่อเนื่อง เช่น YouTube
- Photo Sharing เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการฝากรูปภาพโดยผู้ใช้สามารถอัปโหลดและดาวน์โหลดรูปภาพเพื่อนำมาใช้งานได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นพื้นที่เพื่อเสนอขายภาพของตัวเองได้อีกด้วย เช่น Flickr, Photobucket, Zoom
- Wikis เป็นเว็บไซต์ลักษณะเป็นแหล่งข้อมูล (Data) ซึ่งผู้เขียนส่วนใหญ่จะเป็นนักวิชาการ หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านต่าง ๆ ซึ่งผู้เขียนสามารถเขียนหรือแก้ไขข้อมูลได้อย่างอิสระ เช่น Wikipedia, Google Earth
- Virtual Worlds เป็นการสร้างโลกจินตนาการโดยจำลองภาพลงไป เพื่อติดต่อสื่อสารระหว่างกันบนอินเทอร์เน็ตในลักษณะโลกเสมือนจริง (Virtual Reality) ซึ่งปัจจุบันเว็บไซต์ที่ใช้ Virtual Reality แล้วกำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายก็คือ Second life
- Crowd Sourcing เป็นการขอความร่วมมือจากผู้คนในเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อค้นหาคำตอบและวิธีการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งทางธุรกิจ การศึกษา การสื่อสาร และอื่น ๆ กลุ่มคนที่เข้ามาให้ข้อมูลอาจจะเป็นประชาชนทั่วไปหรือผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านก็ได้ เช่น Idea storm, My Starbucks Idea
- Podcasting หรือ Podcast เป็นการนำสื่อต่าง ๆ มารวมกันในรูปของภาพและเสียง หรือเข้าใจง่าย ๆ ว่า เป็นการบันทึกภาพและเสียงแล้วนำมาไว้ในเว็บเพจ เพื่อเผยแพร่ให้บุคคลภายนอก ที่สนใจดาวน์โหลดเพื่อนำไปใช้งาน เช่น Dual Geek Podcast, Wiggly Podcast
- Discuss / Review/ Opinion เป็นเว็บบอร์ดที่ผู้ใช้สามารถแสดงความคิดเห็นได้ โดยส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับ สินค้าหรือบริการ และประเด็นสาธารณะทางการเมือง เศรษฐกิจ เช่น Epinions, Moutshut
เพราะฉะนั้นหากเราต้องการจะใช้โซเชียลมีเดีย ให้ได้ประโยชน์จากมันมากที่สุด เราก็ต้องดูความต้องการและข้อมูลของตัวเอง รวมไปถึงเลือกรูปแบบประเภทของ โซเชียล มีเดีย เพื่อให้ได้ประโยชน์มากที่สุดนั่นเองค่ะ
Website คือ
เว็บไซต์ (Website) คือ หน้าเว็บเพจที่จัดทำขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลดิจิตอลต่าง ๆ เช่น รูปภาพ บทความ วิดีโอ หรือสาระความรู้ต่าง ๆ ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ และนำเสนอข้อมูลนั้น ๆ ผ่านคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต โดยจะมีหน้าเว็บเพจหลาย ๆ หน้าที่เชื่อมโยงเข้ากับ Hyperlink
เพื่อให้สามารถเปิดไปยังหน้าเพจต่าง ๆ ได้ และถูกจัดเก็บไว้ใน www. (เวิลด์ไวด์เว็บ) เช่น www.exvention.co.th หรือ www.facebook.com เป็นต้น โดยเว็บไซต์ส่วนใหญ่นั้นจะสามารเข้าชมได้ฟรี แต่ก็มีบางเว็บไซต์ที่ต้องสมัครสมาชิกและเสียค่าบริการนะคะ
ข้อดีของ Social Media
โดยข้อดีของโซเชียลมีเดีย นั้นแน่นอนว่าก็มีด้วยกันมากมาย หลากหลายอย่าง ซึ่งวันนี้เราได้ยกมาให้ทุกคนดูกัน ดังนี้
- สามารถแลกเปลี่ยนและศึกษาข้อมูลที่ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- ประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะไม่ว่าจะเราจะทำการหาความรู้ หรือการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นก็สามารถทำได้โดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายมากมาย
- ระยะทางไม่ใช่ปัญหาของการสื่อสาร เพราะไม่ว่าเราหรือคู่สื่อสารจะอยู่ไหน ก็สามารถติดต่อกันได้เหมือนอยู่ใกล้กัน
- ช่องทางการตลาดรูปแบบใหม่ เพราะองค์กรหลายแห่งหันมาให้ความสำคัญกับโซเชียลมีเดีย ในการทำการตลาด เพื่อขายสินค้าหรือบริการ
ข้อเสียของ Social Media
- ไม่ปลอดภัยต่อข้อมูลส่วนตัว เห็นได้จากการสมัครบัญชีผู้ใช้งานแต่ละครั้ง ที่เราจำเป็นต้องให้ส่วนตัว ซึ่งมันอาจจะหลุดหรือแพร่กระจายไปได้บางครั้งอาจทำให้เพจของเราโดนแฮคได้เช่นกัน
- การละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานต่าง ๆ เพราะการที่เราลงรูปหรือผลงาน หากไม่ได้ใส่ลายเซ็นหรือตราสัญลักษณ์ของตัวเองลงไปก็อาจจะโดนละเมิดลิขสิทธิ์ผลงาน เช่น ลอกเลียนแบบ และเอาไปตัดต่อเป็นสิ่งผิดกฎหมายได้ เป็นต้น
- หมกมุ่นเกินไป บางคนก็ใช้โซเชียลมีเดีย มากจนเกิน จนอาจเสียงาน เสียการเรียน จึงต้องลำดับความสำคัญและจัดเวลาให้ดีค่ะ ซึ่ง Instagram ก็ได้ออก Feature มาใหม่ แต่กำลังอยู่ในช่วงทดลอง คือ Feature Take a Break ซึ่งจะช่วยกำหนดระยะเวลาในการใช้งาน Instagram ได้
ข้อดีของ Website
โดยข้อดีของ Website นั้นก็ไม่ได้มีน้อยหน้าไปจากโซเชียลมีเดีย เลย วันนี้เราก็ได้รวบรวมมาบอกกัน ดังนี้
- สืบค้นสารสนเทศได้หลายมิติ ทั้งตัวอักษร ภาพ หรือเสียง ก่อเกิดความเพลิดเพลินกว่าการอ่านเพียงตัวอักษร
- สามารถเชื่อมโยงได้หลายมิติ ซึ่งทำให้การสืบค้นเป็นไปได้อย่างกว้างขวาง ทั่วถึง
- ใช้ได้อย่างอิสระ เนื่องจากเวลาเราสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ที่ต้องการ เราก็สามารถค้นได้อย่างอิสระ
- ไม่ต้องจดจำคำสั่งในการใช้งาน เนื่องจากสามารถใช้คำสั่งจากรายการเลือกของโปรแกรมเบราว์เซอร์ได้นั้นเอง
ข้อเสียของ Website
- ข้อมูลสารสนเทศอาจะไม่ถูกต้องเสมอไป เนื่องจากใครก็สามารถเอาข้อมูลมาลงเว็บไซต์ได้เพราะฉะนั้นเราจึงต้องอาศัยวิจารณญาณด้วยว่าสมควร หรืออ้างอิงข้อเท็จจริงหรือไม่
- เว็บไซต์อาจจะไม่เหมาะสมกับบางกลุ่มคน เพราะผู้ใช้ทุกคนมีอิสระในการท่องไปในเว็บไซต์ต่าง ๆ ทำให้บางครั้งเด็กและเยาวชนอาจจะเข้าเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมได้
ความแตกต่างของ Social Media และ Website
โซเชียลมีเดีย เป็นเว็บไซต์ที่ผู้ใช้งานสามารถติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ โดยในปัจจุบันก็ได้รับความนิยมในสังคมโลกอย่างแพร่หลาย มีความเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงไปแบบ Real time
Website เป็นแค่เว็บไซต์ที่ผู้ใช้งานไม่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ แต่จะมีแค่ช่องทางให้ฝากข้อความถึงผู้ดูแลเว็บไซต์เท่านั้น ไม่ได้เคลื่อนไหวแบบ Real time และไม่ได้เป็นที่นิยมในการติดต่อสื่อสารกัน
ส่วนหากใครที่อยากจะรู้ต่อว่าแล้ว Website และ Web Application นั้นแตกต่างกันอย่างไร ก็สามารถเข้าไปอ่านต่อเกี่ยวกับ Web Application ได้
เปรียบเหมือน บ้านเช่า กับ บ้านเรา
อยากให้ทุกท่านเปรียบเทียบระหว่าง“บ้านเช่า กับ บ้านของเรา” 2 สิ่งนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ที่เหมือนกันคือ ทั้งสองสิ่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยเหมือนกัน
มาลองมองในมุมมองของ Social Media Platform กันบ้าง
- บ้านเช่า คือที่อยู่อาศัยที่ไปเช่าเขาอยู่ นั้นหมายความว่าเราจ่ายไปเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถเป็นเจ้าของได้จริง ๆ เช่นเดียวกันกับ Social Media Platform ต่าง ๆ แม้เราจะขยันโพสต์ไปเท่าไหร่ ถ้าสักวันเกิดล่มขึ้นมาข้อมูลทั้งหมดย่อมหายไป เพราะ Server คือของเขา
- บ้านของเรา คือที่อยู่อาศัยของเราถึงเราจะต้องผ่อนจ่าย แต่มันก็จะเป็นของเราแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น Website แค่เพียงจ่ายเงินเพื่อต่ออายุบ้านของเรา รายปีหลักพันก็เป็นเจ้าของ Website ได้แล้ว ซึ่งเราสามารถ Upload ข้อมูลเท่าไหร่ก็ได้ หรือว่าจะจัดแต่งปรับแต่งให้เหมาะกับแบรนด์ของเราก็ได้ ยังไง Website ก็อยู่กับเรา ไม่มีล่มแน่นอน !
สรุป
“โซเชียล มีเดีย” นั้น เป็นเว็บไซต์ที่คนทั่วไปในสังคม รวมทั้งตัวเราเองใช้ติดต่อสื่อสารกัน ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ตัวอย่างที่เห็นภาพและเชื่อว่าทุกคนต้องใช้กันก็เช่น Facebook, Instagram และTwitter เป็นต้นนั้นเองค่ะ แต่ “เว็บไซต์” นั้นเป็นแหล่งเก็บข้อมูลเอกสารในอินเตอร์เน็ต ทั้ง รูปภาพ ข้อความ หรือ วิดีโอ แตกต่างกับโซเชียลมีเดีย เพราะปกติ Website ไม่ได้ใช้ติดต่อพูดคุยกันนั้นเองค่ะ
ผู้ประกอบการท่านใด ต้องการเดินบนเส้นทางธุรกิจออนไลน์ ปรึกษา Exvention ได้เลยครับนอกจากนี้เรายัง รับทำเว็บไซต์ อีกด้วยท่านใดสนใจติดต่อเราได้เลยครับ
Reference :
เว็บไซต์ VS โซเชียลมีเดีย แตกต่างยังไง อันไหนใส่ไข่ อันไหนใส่นม!